xs
xsm
sm
md
lg

พ่อใหญ่ “จิ๋ว” คิวร้อนที่พีซทีวีกับเหตุฟ้าผ่าเปรี้ยง !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าในเวลานี้สายตาของคนทั้งโลกและคนไทยต่างเพ่งไปที่เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เนปาล ด้วยความเศร้าสลดหดหู่ จนแทบไม่ได้ละสายตาไปมองเหตุการณ์อื่นๆ

แต่พลันเมื่อเกิดรายการที่เรียกว่า “ฟ้าผ่า” ที่ช่อง “พีซทีวี” หรือทีวีคนเสื้อแดง ที่ถูกคำสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) สั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมของบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด หรือว่า พีซทีวี ซึ่งเข้าใจกันดีว่าเป็นทีวีของคนเสื้อแดงนั่นแหละ เพราะผู้บริหารและผู้ดำเนินรายการล้วนเป็นแกนนำคนเสื้อแดงทั้งสิ้น

เหตุผลที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และในฐานะประธาน กสท. ระบุว่า ที่ประชุม กสท. ได้พิจารณาข้อร้องเรียนช่องรายการพีซทีวี โดยที่ประชุมได้มีมติเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียม บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด หรือ ช่องพีซทีวี ซึ่ง กสท.ได้พิจารณาตามกระบวนการมาเป็นลำดับ ด้วยการทำความเข้าใจ แจ้งเตือน พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการ เมื่อ กสท. ได้พิจารณาถึงการกระทำโดยถี่ถ้วนว่า เป็นลักษณะเข้าข่ายการกระทำที่เป็นความผิดซ้ำ ที่ประชุมจึงได้มีมติดังกล่าว

“เป็นการพิจารณาตามบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด กับ กสทช. หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 ได้มีช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมจำนวนหนึ่งถูกยุติการออกอากาศตามคำสั่ง คสช. โดยเหตุของการถูกสั่งให้ยุติออกอากาศ เนื่องมาจากช่องรายการเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศมาโดยต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ต่อมาช่องรายการเหล่านี้ได้รับการอนุญาตให้ออกอากาศอีกครั้ง โดยจะต้องมีการยอมรับข้อตกลงกับ กสทช. ในการระมัดระวังการออกอากาศ โดยช่องรายการตกลงที่จะไม่ออกอากาศเนื้อหาที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง และสร้างให้เกิดความแตกแยก

กรณีของช่องรายการพีซทีวี เป็นช่องรายการหนึ่งที่ได้ทำข้อตกลงดังกล่าว และได้มีข้อร้องเรียนการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อตกลงมาตามลำดับ โดย กสทช. ได้มีการตักเตือนและทำความเข้าใจในระดับของคณะอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการของ กสทช. หลายครั้ง ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2557 แต่ช่องพีซทีวีก็ยังคงนำเสนอเนื้อหาในลักษณะเช่มเดิม จนคณะอนุกรรมการได้เสนอ กสท. เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนของพีซทีวี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 โดย กสท. ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 ให้ตักเตือน พีซทีวี เป็นลายลักษณ์อักษร ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและที่กำหนดในข้อตกลง

ในเวลาต่อมา พีซทีวียังคงออกอากาศรายการที่ยังขัดต่อข้อตกลงดังกล่าวอีก จนกระทั่ง กสท. ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 58 ให้พักใช้ใบอนุญาต โดยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการดังกล่าว ส่งผลให้พีซทีวีต้องยุติการออกอากาศเนื้อหารายการตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน จนถึง 17 เม.ย. 58 และเมื่อพีซทีวีออกอากาศอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน 2558 ก็ได้มีการออกอากาศรายการในลักษณะที่มีเนื้อหาละเมิดข้อตกลงเช่นเดิม

“ดังนั้น สำนักงาน กสทช. ได้นำเสนอวาระต่อที่ประชุม กสท.เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว ที่ประชุมจึงได้มีมติเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดาวเทียม”

นั่นเป็นคำพูดที่ระบุเหตุผลที่มาที่ไปที่ต้องมีการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีซทีวี สรุปให้เข้าใจ ก็คือ “ทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” เตือนให้แก้ไขมาหลายรอบก็ไม่แก้ไข

นั่นเป็นเหตุผลที่อธิบายไดั และเท่าที่ตรวจสอบปฏิกิริยาสังคมประเมินแล้วก็เข้าใจเหตุผลของ กสท. มากกว่าไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีเรื่องเหตุการณ์เศร้าสลดที่เนปาลมากลบเสียเกือบหมดก็เป็นได้ ทำให้แทบไม่มีใครกล่าวถึงเรื่องแบบนี้กันเลย

อย่างไรก็ดี ทุกอย่างย่อมเดินไปตามกติกาและอำนาจกำหนด ก็คงถึงเวลาปิดฉากสำหรับพีซทีวี ทีวีคนเสื้อแดง ต่อไปนี้บรรดาแกนนำก็คงหาใช้ช่องทางอื่นในการสื่อสารกับบรรดาแฟนคลับกันจนได้ แต่ขณะเดียวกัน คงจะคนละเรื่องกับที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในผู้บริหารที่วีช่องนี้พยายามจะสื่อออกมาในทำนองว่าจะกระทบต่อการปรองดอง เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกัน ระเบียบกฎเกณฑ์ก็อีกเรื่องหนึ่ง คำถามก็ถือว่าสถานีช่องนี้ได้ทำผิดจริงหรือไม่ เป็นไปตามที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ แถลงจริงหรือไม่ ส่วนจะมีอำนาจแฝงที่อยู่เหนือขึ้นไปสั่งมาหรือไม่ ไม่รู้

นอกเหนือจากนี้ก็คือ คนพวกนี้ “ไม่ใช่สื่อ” ซึ่งสามารถยืนยันได้ ส่วนจะเป็นลักษณะแบบไหนสังคมและในวงการสื่อน่าจะให้คำนิยามได้ดีกว่า

แต่ที่น่าจับตาไปกว่านั้นก็คือ ในวันที่ 29 เมษายน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่ก่อนหน้านี้ มีนายทหารคนสนิทออกมาปฏิเสธว่า พล.อ.ชวลิต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกาะสมุย โดยยืนยันว่าเป็นการโยงมั่ว

นั่นเป็นเรื่องของข่าวร้อนที่ยังต้องสืบเสาะกันอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่สำหรับแบ็กกราวนด์ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รับรองว่า น่าติดตามอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องความ “ปั่นป่วน” ที่มักตีคู่หรือตามหลังมาให้เห็นอยู่เรื่อย แม้ว่าหลายครั้งเขาไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ทุกครั้งที่พอมีชื่อของเขาปรากฏขึ้นมามันก็มักทำให้ “อีกฝ่าย” หวั่นไหวขึ้นมาทุกทีสิน่า คราวนี้ก็เช่นเดียวกันก็บังเอิญเกิดเหตุฟ้าผ่าที่ พีซทีวี ขึ้นมาเสียก่อน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น