ทอ. จัด C-130 ลำเลียง บินช่วยเนปาล 8 โมงเช้า พรุ่งนี้ ช่วยเหลือ “เนปาล” ด้าน “ศาลปกครอง” ตั้งกรรมการช่วยเหลือแผ่นดินไหวเนปาล ชวน “ตุลาการฯ - บุคลากร” ระดมเงินบริจาค
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ส่วนราชการและเหล่าทัพเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ทางด้านมนุษยธรรมแก่ประเทศเนปาล กรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา นั้น พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้กองบิน 6 จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) จำนวน 1 เครื่อง เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังประเทศเนปาล ในวันที่ 28 เมษายน เวลา 08.00 น.
โดยคณะเดินทางชุดแรกดังกล่าวมี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยชุดสื่อสารของกองบัญชาการกองทัพไทย ชุดช่วยเหลือทางการแพทย์ พร้อมเวชภัณฑ์และชุดทหารช่างของกองทัพบก จำนวน 51 คน รวมทั้งอุปกรณ์ผลิตน้ำดื่ม ข้าวสาร และผ้าห่ม ซึ่งจะเป็นการเข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้นและอยู่ประเมินผลเพื่อการช่วยเหลือต่อไปเป็นเวลา 7 วัน
พล.อ.อ.มณฑล กล่าวว่า สำหรับภารกิจในการลำเลียงความช่วยเหลือจากประเทศไทยไปยังประเทศเนปาลครั้งนี้ จะเป็นการบินตรงจากกองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ใช้เวลาบินเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง โดยจะเป็นการบินนำส่งคณะและสิ่งของที่จะไปช่วยเหลือและเดินทางกลับในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) สำหรับการบินนำส่งคณะและสิ่งของเพื่อไปช่วยเหลือที่ประเทศเนปาลไว้ตลอดเวลา และพร้อมทำการบินทันที เมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล
อีกด้าน ที่สำนักงานศาลปกครอง นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ประสบภัย และได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากนั้น นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่ประธานศาลปกครองสูงสุด มีความห่วงใยในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จึงสั่งการให้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล ประกอบด้วย ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และ อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นทุกแห่ง ร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อเชิญชวน ตุลาการศาลปกครองและบุคลากรของศาลปกครอง ได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือตามกำลังศรัทธา โดยสำนักงานศาลปกครอง จะได้ประสานการให้ความช่วยเหลือผ่านสถานทูตไทยในเนปาลโดยด่วนต่อไป