นายกฯ นำ ครม. และ “ชายหมู ไล่ไปอยู่ดอย” เยี่ยมชมตลาดวิถีข้าว วิถีไทย ก่อนชมตลาดศิลปะริมคลองผดุงกรุงเกษม ลงมือเพนต์สีปักลูกศรลงบนกลีบดอกไม้ ระบุ “เคยมีประสบการณ์เจ็บ” นักข่าวไหวพริบดีบอก “คงเคยอกหักมาก่อน” จากนั้นลงเรือไปหัวลำโพง ชมเมืองสวีตวี๊ดวิ้ว ทหาร - ตำรวจคุมเข้มตลอดทาง
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เยี่ยมชมพร้อมรับฟังรายงานสรุปการดำเนินงานตลาดวิถีข้าว วิถีไทย จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เปิดจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่เดินชมตลาดศิลปะริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานศิลปะ ทั้งศิลปะร่วมสมัย ศิลปวัฒนธรรม และจำหน่ายสินค้าต่างๆ อย่างหลากหลาย โดยเป็นการดำริของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดยในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเพนต์สีในรูปดอกไม้บนฟุตปาท และได้เติมลูกศรลงบนกลีบดอกไม้ พร้อมกล่าวว่า “เคยมีประสบการณ์เจ็บ” นักข่าวจึงแซวว่า แสดงว่าเคยอกหักมาก่อน เรียกเสียงหัวเราะ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มศิลปินวาดภาพเหมือนนายกฯ นำมาแสดงในงานอีกด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงเรือท้องแบนจากท่าเรือคลองผดุงกรุงเกษม ทำเนียบรัฐบาล ไปจนถึงท่าเรือหัวลำโพง เพื่อตรวจเยี่ยมเส้นทางที่เตรียมเปิดเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มาต้อนรับตลอดสองทางที่เรือของนายกรัฐมนตรี และคณะ เคลื่อนผ่าน โดยนายกฯ ได้โบกมือยิ้มทักทายให้แก่ประชาชนริมสองฝั่งคลอง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการลงเรือตรวจเยี่ยมเส้นทางที่เตรียมเปิดเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำในครั้งนี้ มีการจัดเตรียมเรือให้แก่นายกฯ และคณะ เรือสำหรับเจ้าหน้าที่ เรือสำหรับเจ้าภาพและสื่อมวลชน ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการสนธิกำลังทหารและตำรวจดูแลความปลอดภัยโดยรอบบริเวณ และมีเจ้าหน้าที่คอยยืนประจำจุดริมคลองที่เรือของนายกฯ และคณะเคลื่อนผ่าน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ยืนบนสะพาน ตึกสูงที่ถูกทิ้งร้างและจุดสูงข่มต่างๆ อีกทั้งยังมีรถจากหน่วยกู้ชีพ ขับคู่ขนานไปพร้อมกับขบวนเรืออีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความพึงพอใจเส้นทางที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเบื้องต้นทาง กทม.ได้เตรียมแผนการพัฒนาไว้แล้ว โดยเฉพาะท่าเรือ 9 ท่า มีความพร้อมที่รับนักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งตลอดเส้นทางสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งมีทั้งวัง วัด และสถานศึกษา โดยตามแผนพัฒนาของกรุงเทพมหานคร เตรียมที่จะทำให้เป็นคลองแห่งนี้ คล้ายกับตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งจะต้องมีการปรับให้บ้านเรือนประชาชนหันหน้าเข้าคลอง ทั้งนี้ กทม.จะเสนอแผนงานมายังรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในวันที่ 1 เม.ย. นี้ ทันที โดยที่รัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ