วิป สนช. เผย 2 เม.ย. นัดพิจารณาถอดถอน “บุญทรง - ภูมิ - มนัส” คาดไม่เกินปลาย เม.ย. แถลงเปิดคดี แจง ยังพิจารณา กม. สำคัญ 3 ฉบับ พ.ร.บ.ป้องกันท่อน้ำเลี้ยงก่อการร้าย พ.ร.บ.กันฟอกเงิน พ.ร.บ.กระทรวง ทบวง กรม
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติ หรือวิป สนช. แถลงภายหลังการประชุมว่า ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ จะมีการประชุม สนช. จะมีวาระสำคัญเป็นการพิจารณาถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาตรา 64, 66 ที่มีพฤติกรรมส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ นายมนัส ได้ยื่นขอเพิ่มเติมพยานเอกสาร จำนวน 9 รายการ ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะต้องเป็นเอกสารที่ ป.ป.ช. ไม่รับพิจารณา และเป็นเอกสารที่อยู่ในสำนวนเท่านั้นถึงจะขอเพิ่มเติมได้ โดย สนช. จะรับพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ทั้งนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. จะได้มีการกำหนดวันแถลงเปิดคดีรวมทั้งขั้นตอนต่างๆ ในวันดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่าไม่เกินเดือนปลายเดือนเมษายนนี้ น่าจะแถลงเปิดคดีได้ จากนั้นก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม แถลงปิดคดี และลงมติถอดถอนหรือไม่ ตามกระบวนการซึ่งจะมีการกำหนดวันอีกครั้งหนึ่ง
นพ.เจตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีวาระการพิจารณากฎหมายสำคัญ ซึ่งเป็นกฎหมายพวงประกอบด้วยกฎหมาย 3 ฉบับ 1. ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. 2. ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟองเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ... และ 3. ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ซึ่งจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ โดยองค์กรระหว่างประเทศจะมีการตรวจสอบประเมินสถานการณ์ของไทย ในปี 2559 ด้วย รวมทั้งจะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การบริหารเงินทุนหมุนเวียน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ที่ขณะนี้มีหลายกองทุนที่มีจำนวนเงินรวมถึง 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งหลายกองทุนต้องงบสนับสนุนจากงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นภาระของรัฐ จึงให้มีการตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งพิจารณาเพื่อพิจารณายกเลิกกองทุนที่หมดความจำเป็นลง ซึ่งก็มีข้อจำกัดเนื่องจากบางกองทุนก็เกิดจากกฎหมายเฉพาะจึงยกเลิกยาก เว้นแต่กองทุนที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีสนับสนุนอยู่ ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นประโยชน์มาก