โฆษก กมธ.ปฏิรูปการเมือง เผยมติส่งตัวแทนอภิปรายร่าง รธน.5 คน “สมบัติ” หัวหน้านำทีม รับเรื่องเวลาซักฟอกยังไม่นิ่ง เชื่อยืดเวลาเพิ่ม เผย “บวรศักดิ์” ถก สปช.จว.ทำความเข้าใจตรงกันก่อน ดักต้องคำนึงความเหมาะสม เชื่อผลออกมาไม่หักกัน
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายบุญเลิศ คชายุทธเดช สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง แถลงถึงการอภิปรายร่างแรกรัฐธรรมนูญในระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนนี้ ว่าที่ประชุมคณะ กมธ.ปฏิรูปการเมืองได้มติส่งตัวแทนเข้าร่วมอภิปรายจำนวน 5 คน นำโดย 1. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะ กมธ.ปฏิรูปการเมือง เป็นหัวหน้าทีม รับผิดชอบอภิปรายภาพรวมของโครงสร้างการเมือง รวมถึงองค์อิสระ 2. นายดิเรก ถึงฝั่ง 3. นายบุญเลิศ 4. นายนิรันดร์ พันธกิจ และ 5. นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ โดยบุคคลทั้ง 5 คนที่ประชุมได้พิจารณาจากคนที่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่จะอภิปราย และเป็นคนที่สามารถอภิปรายชี้แจงเหตุผลได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วนภายในเวลาที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้ ประเด็นการอภิปรายเป็นข้อสรุปที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ จังหวัดชลบุรีเป็นหลัก ส่วนที่ประเด็นที่ยังตกค้าง ทางคณะ กมธ.จะนำมาหารือกันอีกครั้งในการประชุมวันที่ 7 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องเวลาการอภิปรายของสมาชิกยังไม่นิ่ง เพราะนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ยอมรับว่าการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญของ สปช.ต้องมีเวลาเพียงพอเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นตนเชื่อว่าอาจจะขยายเวลาการอภิปรายจากเดิมที่กำหนดไว้
นายบุญเลิศกล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมภายในกับสมาชิก สปช.จังหวัดต่างๆ ประมาณ 30-40 คน โดยนายบวรศักดิ์ระบุว่า แม่น้ำทั้ง 2 สายต้องไปด้วยกัน อยากให้ สปช.ทั้งหมดได้พบกับคณะ กมธ.ยกร่างฯเพื่อทำความเข้าใจก่อนเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งตนเห็นด้วยในเมื่อแม่น้ำ 2 สายทำงานร่วมกันก็ต้องพบกันมีการรับฟัง และมีการอภิปรายเรื่องต่างๆ ว่า ในแต่ละหมวดแต่ละส่วน แต่ละหมวด แต่ละมาตรามีเหตุผลเช่นไร สปช.ที่ไปรับฟังความเห็นของประชาชนมีความเห็นอย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นไปเพื่อการทำความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวการยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ
ถ้าในท้ายที่สุด กมธ.ไมได้มีการปรับแก้ตามที่สปช.ได้แสดงความเห็นจะมีแนวทางอย่างไร นายบุญเลิศกล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าว แต่ในส่วนตัว กมธ.ยกร่างฯ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและสามารถอธิบายได้ เพราะในท้ายที่สุด สปช.จะต้องเป็นลงมติให้ความเห็นชอบ ซึ่ง สปช.ถือว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับประชาชน โดยในเบื้องต้นคาดว่าผลจะออกมานี้ไม่ได้หักหรือโค่นกัน
