ประธาน สปช.ปฏิเสธจุ้นเรื่องพระสงฆ์ แค่เสนอแนะเรื่องที่ฆราวาสไปเกี่ยวข้องกับพระศาสนา ส่วนพระสงฆ์ต้องไปปฏิรูปกันเอง ชี้ตั้งเครือญาติช่วยงานสมาชิกฯ ไม่ผิดข้อบังคับ แต่พร้อมหนุนแนวทางที่วิป สนช.เสนอให้ลาออก เห็นด้วย สปช.เว้นวรรคการเมือง 2 ปี เพราะมีส่วนได้เสียรัฐธรรมนูญ
นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องนอกกรอบการดำเนินการของ สปช. หน้าที่ของ สปช.คือการให้ความเห็น ข้อเสนอแนะการปฏิรูป แต่เราไม่มีหน้าที่ปฏิบัติการ ส่วนความเห็นเรื่องกิจการศาสนา เรายืนยันว่าเราไม่ได้ให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะแก่สงฆ์ เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา แต่เป็นเรื่องที่พระสงฆ์ต้องจัดการชำระปัญหาและปฏิรูปกันเอง
ส่วนเรื่องที่ สปช.มีอำนาจในการเสนอแนะเพื่อปฏิรูปนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฆราวาสไปข้องเกี่ยวกับพระศาสนา เช่น พุทธพาณิชย์ ผู้ที่ปลอมเป็นพระสงฆ์ได้ถือบาตรเรี่ยไรกลางถนน เป็นต้น อีกทั้งเรื่องคดีความที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ก็มีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว โดยทั้งหมดถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องจัดการ ดังนั้น ตนอยากจะย้ำว่าต้องให้ประชาชนให้ข้อเสนอแนะและช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา หากการปฏิรูปทั้งในส่วนของพระสงฆ์และฆราวาสสำเร็จพร้อมกันก็จะเป็นประเทศที่มีธรรมะและเป็นเครื่องจรรโลงศีลธรรมอันดีของประชาชน
ส่วนที่สมาชิก สปช.ตั้งเครือญาติเข้ามาเป็นผู้ช่วยนั้น นายเทียนฉายกล่าวว่า ในระเบียบข้อบังคับเป็นระเบียบเดิมที่ใช้กับ ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งในส่วนของ สปช.แม้การทำหน้าที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมาย แต่ สปช.มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญจึงอนุโลมใช้ข้อบังคับเดิมที่มีอยู่ หาก สปช.เดินไปตามคุณสมบัติ ระเบียบ และกติกาที่กำหนดไว้ ตนก็มองว่าน่าจะถูกต้องแล้ว ส่วนบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนบังเอิญเป็นเครือญาตินั้น ตนเห็นว่าขณะนี้ สปช.มีวาระการทำงานไม่มาก บางครั้งการเอาญาติหรือบุตรมาช่วยทำงาน โดยเฉพาะที่ไม่ใช่เรื่องกฎหมาย แต่เป็นเรื่องเฉพาะ เช่น เรื่องเศรษฐกิจหรือเรื่องอื่นๆ แล้วบุตรเรียนมาด้านนี้ หากเอามาช่วยงานคงไม่เป็นไร คงเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายได้ แต่ถ้าตั้งมาแล้วไม่เคยเห็นตัว ไม่เคยเห็นหน้าเลยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ประเด็นนี้เป็นความรับผิดชอบเฉพาะตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า วิป สนช.มีคำแนะนำให้เครือญาติที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยสมาชิก สนช.ลาออก นายเทียนฉายกล่าวว่า แนวทางที่วิป สนช.ทำไว้ดีแล้ว ดังนั้น สปช.คงเดินในทางเดียวกัน เพราะในเหตุการณ์เดียวกันถ้าทำกันคนละอย่างคงอธิบายยาก ส่วนที่มีบุคคลไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ สนช.ที่แต่งตั้งเครือญาติมาช่วยงานนั้น ตนเห็นว่า ป.ป.ช.ต้องพิจารณาว่ามีอำนาจหน้าที่หรือไม่ ส่วนใครจะไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ดำเนินการไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดเห็นอย่างไรต่อข้อเสนอให้แม่น้ำ 5 สาย เว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี หลังจากมีรัฐธรรมนูญใหม่ นายเทียนฉายกล่าวว่า เว้นวรรค 2 ปี ก็ดี เพราะ สปช.มีส่วนได้เสียกับรัฐธรรมนูญ ในการให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ที่สำคัญเมื่อเราทำหน้าที่ตรงนี้คงต้องพร้อมรับทุกอย่าง ส่วนแม่น้ำอีก 4 สายตนคงไม่สามารถไปตอบแทนได้