สปช.- สนช. เตรียมเข้ารายงานความคืบหน้าตามโรดแมประยะที่ 2 ต่อที่ประชุมแม่น้ำ 5 สายพรุ่งนี้ วิป สปช. เผยจัดทำแผนโรดแมประยะ 3 กำหนดโครงสร้างเสร็จ 27 ก.พ. แบบแม่บทโครงสร้าง 10 เม.ย. และแผนแม่บทกฎหมาย ไม่เกิน 31 ก.ค. ก่อนลงมติร่างรัฐธรรมนูญ “หมอเจตน์” ยันไม่เสนอยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะไม่ใช่หน้าที่
วันนี้ (3 ก.พ.) นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ วิป สปช. กล่าวถึงการประชุมแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 4 ก.พ. ว่า จะมีการรายงานความคืบหน้าการทำงานของ สปช. ตามโรดแมประยะที่ 2 ต่อแม่น้ำ 5 สายที่จะครอบคลุม กระบวนการปฏิรูปประเทศ การร่างรัฐธรรมนูญ โดยล่าสุด ทาง สปช. ได้จัดทำแผนแบบบทการจัดทำการปฏิรูปประเทศ 3 ระยะ ดังนี้ 1. การดำเนินการตามกรอบโครงสร้างการปฏิรูป ซึ่งต้องแล้วเสร็จในวันที่ 27 ก.พ. นี้ 2. แบบแม่บทการปฏิรูปโครงสร้างและระบบ ซึ่งต้องแล้วเสร็จในวันที่ 10 เม.ย. และ 3. แผนแม่บทการปฏิรูปด้านกฎหมาย ซึ่งต้องแล้วเสร็จในวันที่ 31 ก.ค.
โดยแม่บททั้ง 3 ระยะนี้จะต้องเสร็จก่อนวันลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมาธิกายกร่างฯ ต้องเสนอในวันที่ 6 ส.ค. นี้ ทั้งนี้ การปฏิรูปกฎหมายของ สปช. ที่ต้องเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค. จะไม่ครอบคลุมในส่วนของการร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กมธ. ยกร่างฯ ที่จะต้องชี้แจงต่อแม่น้ำ 5 สายว่า พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญที่จะต้องร่างภายหลังจากมีการเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้วมีทั้งสิ้นกี่ฉบับ และต้องใช้เวลาเท่าไหร่
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สปช. จะมีการหารือเพิ่มเติมกับแม่น้ำ 5 สายในประเด็นการรณรงค์การมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปประเทศ แม้ว่า สปช. จะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวางทั้งประเทศแล้ว แต่ในแง่คุณภาพการมีส่วนร่วมของประชาชนในระยะต่อไปของประชาชนยังมีความสำคัญ และยังต้องการรับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ด้วยการประชาสัมพันธ์ในเกิดการตื่นตัวจนนำไปสู่การสร้างเครือข่ายเป็นแนวร่วมครอบคลุมทั้งประเทศเพื่อร่วมผลักดันการปฏิรูปต่อไป
ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. กล่าวว่า ในที่ประชุมวิป สนช. ยังไม่ได้พูดกันว่าจะหยิบยกเรื่องใดเข้ารายงานต่อที่ประชุมแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 4 ก.พ. นี้ แต่คาดว่าน่าจะมีการนำเสนอปัญหาของร่างพระราชบัญญัติที่เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ที่มีปัญหา ซึ่งจะต้องหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จะไม่มีการเสนอให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะไม่ใช้หน้าที่ของ สนช. ซึ่งตนมองว่ากฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ก็เพื่อไว้สำหรับการสร้างความปรองดอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะสอบถาม สนช. เกี่ยวกับการคืบหน้าในการทำงาน ในส่วนของ สนช. ที่จะเข้าร่วมประชุมประธานและรองประธาน สนช. ประธาน กมธ. ของ สนช. ทุกคณะ ร่วมไปถึงที่ปรึกษาที่เป็น สนช.
