ป้าเกษตรกรไร่มะขาม ชาวเพชรบูรณ์ วัย 50 ถือกระเช้ามะขาม ใช้จังหวะรถนายกฯ เลี้ยวเข้า ก.เกษตรฯ จ่อวิ่งกระโจนใส่แต่โชคดี ตำรวจห้ามทัน พบเตรียมเข้าร้องเรียนเป็นหนี้ถูก ธ.กรุงศรีฯ ยึดทรัพย์ 42 ล้าน แฉพวกขี้โกงหลอกให้เซ็นเอกสาร ร้องมาทุกรัฐบาลจนเจ้าหน้าที่จำหน้าได้ ถามต้องให้ซ้ำรอยป้าสังเวียนถึงจะช่วยหรือ
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรายงานว่า ระหว่างที่ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลี้ยวเพื่อเข้ากระทรวง เพื่อประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2558 ปรากฏว่าได้มีหญิงสูงวัยอายุประมาณ 50 ปีถือไม้เท้าข้างหนึ่งประคองตัวเอง ทราบชื่อภายหลังคือนางภินันท์ ภูมิวรรณรินทร เกษตรกรชาวไร่มะขาม จังหวัดเพชรบูรณ์ พยายามวิ่งใส่เข้าไปยังขบวนรถของนายกฯ เพื่อที่จะยื่นหนังสือร้องเรียน โดยนางภินันท์ได้นำกระเช้ามะขามหวานเตรียมมามอบให้กับนายกฯ ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ขวางและขอร้องไม่ให้นางภินันท์เข้าถึงขบวนรถนายกฯ แต่ขบวนรถไม่ได้หยุดและขับผ่านไปตามปกติ เพียงแต่นายกฯ มองผ่านกระจกรถออกมาเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เข้าไปเจรจาให้นางภินันท์ ระงับสติอารมณ์ และพยายามกล่อมเพื่อให้ชี้แจงถึงปัญหา แต่นางภินันท์กลับพูดพร้อมส่งเสียงโวกเวกโวยวายด้วยความเครียดเพราะคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวางไม่ให้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ
จากการสังเกตพบนางภินันท์มีอาการเครียดจัดจนเห็นได้ชัด พร้อมระบุว่าตัวเองเป็นหนี้สินและถูกธนาคารกรุงศรีอยุธยายึดทรัพย์ขายทอดตลาด การมาวันนี้ก็เพื่อมาขอความช่วยเหลือจากนายกฯ และยืนยันว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนสั่งมา หรืออยู่เบื้องหลัง เป็นผู้เดือดร้อนตัวจริง และได้ร้องเรียนปัญหาหนี้สินมาหลายรัฐบาล โดยเฉพาะที่ทำเนียบฯ ก็เคยไปร้องเรียนจนเจ้าหน้าที่รู้จักหมดแล้ว
“หรือต้องการให้จุดไฟเผาตัวเหมือนป้าสังเวียนถึงจะมีการช่วยเหลือกัน ยืนยันว่าดิฉันไม่ใช่คนกระจอก มีทรัพย์สินแต่ถูกพวกหัวขี้โกงในธนาคารเอาทรัพย์ไปขายทอดตลาดมีหลอกให้เซ็นเอกสาร แล้วก็ยึดทรัพย์จำนวนกว่า 42 ล้านบาท” นางภินันท์กล่าว