“บิ๊กตู่” นำ ครม. ประชาชน เปิดเส้นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โวไม่เหนื่อย หลังปั่น 8 กิโลฯ ยันยังไม่คิดใช้อำนาจตาม ม.44 โดยไม่จำเป็น อ้างถ้าจะใช้ต้องเป็นไปในทางสร้างสรรค์ ไม่คิดยุบ อปท.
ที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง เช้าวันนี้ (28 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ด้านสังคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตน์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม ทั้งนี้ ได้มีประชาชนมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการที่ กทม. มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จากการที่ กทม. จัดโครงการมาหลายปี รัฐบาลจะสนับสนุนให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งในพื้นที่ กทม. และ ต่างจังหวัด เพื่อให้มีการใช้จักรยานอย่างปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพิ่มขึ้นจากแค่การออกกำลังกาย หลายประเทศที่พัฒนาแล้วก็มีการใช้จักรยานกันมาก จึงจะต้องนำมาปรับใช้ในประเทศไทย และการใช้จักรยานจะสามารถช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ เป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย รัฐบาลจึงอยากสนับสนุนให้มีความยั่งยืน โดยจะอำนวยความสะดวก เช่น จัดทำที่จอดจักรยานที่มีความปลอดภัยเพื่อการคมนาคมและการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ผู้ร่วมใช้ถนนเอื้อเฟื้อให้กับผู้ขับขี่จักรยาน โดยผู้ใช้จักรยาน ผู้ใช้ถนนทั่วไป และเจ้าหน้าที่ ต้องร่วมมือกันเคารพกฎจราจร ส่วนที่ กทม. มีการปิดถนนเพื่อจัดตลาดขายของอยู่ทุกสัปดาห์นั้น เห็นว่าควรจะสนับสนุนให้มีการใช้จักรยานในการซื้อของ เพื่อให้ประชาชนมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวมากยิ่งขึ้น และปกติประชาชนขับรถต่างคนต่างอยู่ ถ้าหันมาปั่นจักรยานมากขึ้นจะได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม. มีการเร่งพัฒนาเส้นทางจักรยานมาอย่างต่อเนื่องและปีนี้ได้จัดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ รวมระยะทางทังสิ้น 8 กิโลเมตร ใน 12 เส้นทาง เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และในปี 2558 จะมีการพัฒนาเส้นทางจักรยานเพิ่มขึ้นอีก 5 เส้นทาง รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาปั่นจักรยานมากขึ้นและเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานได้เดินชมนิทรรศการแล้วนำ ครม. ปั่นจักรยานจาก บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปตามถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายแยกคอกวัว เข้าสู่ถนนตะนาว ตรงไปยังแยกสี่กั๊กพระยาศรี เลี้ยวขวาเข้าถนนบำรุงเมือง ผ่านหน้ากระทรวงมหาดไทย
จากนั้นข้ามสะพานช้างโรงสี เข้าถนนกัลยาณไมตรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามไชย แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนท้ายวัง ถนนมหาราช ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนราชินี ถนนพระอาทิตย์ ถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาเข้าถนนสิบสามห้างผ่านหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เข้าสู่ถนนตะนาว และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปถึงจุดสิ้นสุดที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ รวมระยะทาง 8 กม. โดยนายกฯ ได้นำจักรยานส่วนตัว ยี่ห้อ Ultrasport (อันตราสปอร์ต) มาร่วมในงานครั้งนี้ สำหรับการรักษาความปลอดภัยในบริเวณและตลอดเส้นทางมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.11 กองทัพภาคที่ 1
เมื่อนายกฯปั่นจักรยานเสร็จผู้สื่อข่าวได้ถามว่าเหนื่อยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่จะ” พร้อมกล่าวถึงการใช้จักรยานว่า อยู่ระหว่างการแก้ปัญหา ซึ่งได้คุยกันต่อว่าอาจจะต้องทำที่จอดรถเพิ่มขึ้น เพราะที่จอดรถข้างบนไม่มีแล้ว อาจจะต้องทำที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยากให้เผื่อแผ่แบ่งปันกัน และระมัดระวังซึ่งกันและกัน อย่าโมโหกัน แต่ส่วนตัวคิดว่า เมื่ออากาศร้อน จักรยานก็คงขี่ไม่ได้อยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เคยกล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดจะยุบ อปท. ที่ จ.นราธิวาส ว่า ยังไม่มีอะไร เขาเพียงแต่ถามเรื่องท้องถิ่น ตนก็บอกว่าไม่มี ยังไม่มีความคิดอะไรเลย ตอนนี้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยดีอยู่ เพราะฉะนั้นเรามาดูเรื่องการทำมาหากินกันดีกว่า เป็นห่วงว่าประชาชนจะมีรายได้กันอย่างไร ซึ่งตนได้คุยกับผู้ว่าฯ กทม. และรัฐมนตรี โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย อาจจะมีการหาพื้นที่ให้ขายของ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา และรู้ว่าประชาขนเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เศรษฐกิจปีหน้าในภาพใหญ่จะดีขึ้น แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงเศรษฐกิจในภาพข้างล่าง ว่าจะทำอย่างไรให้คนที่มีรายได้น้อย ให้มีรายได้เพียงพอ แต่ก็ต้องพัฒนาไปทีละขั้น
ส่วนการใช้อำนาจตามรัฐธรรมูญฉบับชั่วคราว มาตรา 44 กับผู้ที่เห็นต่างจะมีโอกาสใช้อีกหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ได้ใช้อะไร แต่จะใช้ในทางสร้างสรรค์ อะไรที่ติดขัดทางข้อกฎหมายและทำให้เกิดประโยชน์ เราก็จะใช้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดจะใช้อะไร”
***ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่านโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ช่างสุขุม ลุ่มลึก และมองการณ์ไกล เป็นการคืนความสุขให้กับคนไทยทั้งชาติโดยแท้จริง ถือเป็นบุญคุณที่ประชาชนต้องตระหนัก และซาบซึ้งในวิสัยทัศน์ และการทำงานหนักของนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ท่านนี้***.