“รองวิษณุ” แถลงผลงาน 3 เดือนรัฐ ด้าน กม. แจงรัฐมีเวลาจริงแค่ 3 เดือนกว่า ลุยเร่งออก กม. 63 ฉบับ ตามนโยบาย แถม นายกฯกำชับเน้นคุณภาพ เผยเสร็จแล้ว 13 ฉบับ รับ กม. ที่ตกค้างล้วนแต่สำคัญ คาด ม.ค. 58 สนช. พิจารณา 4 กม. สำคัญ ก่อนแจงผลงานด้านยุติธรรม ชี้ ป.ป.ท. ชง 245 เรื่องมีมูลโกง ปฏิรูปโครงสร้างราชการ ให้มีคุณภาพ ปชช. สะดวก ไม่รับปากล้างผิดหรือไม่
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ร่วมแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ว่า สำหรับงานด้านกฎหมายเป็นงานที่เกื้อกูลสนับสนุนงานด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ ต่างประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. มาถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 7 เดือน แต่เวลาที่แท้จริงของรัฐบาลแค่ 3 เดือน 13 วันเท่านั้น และหลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปนั้น ปรากฏว่า รัฐบาลประมวลงานไว้ทั้งหมด คือ 11 ด้าน โดยจะต้องออกกฎหมายรองรับ 63 ฉบับ ซึ่งจำนวนการออกกฎหมายดังกล่าวกับระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลในกรอบ 1 ปีนี้ ถือว่าไม่มากเท่ากับยุคที่ผ่านๆ มา เนื่องจากนายกฯระบุว่าการออกกฎหมายเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ เช่น ร่าง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกการขออนุญาต อนุมัติ จากทางราชการ การคืนบำนาญแก่ข้าราชการ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก ร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกฎหมายอุ้มบุญ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จำเป็นต้องออกตามนโยบาย
ทั้งนี้ กฎหมาย 63 ฉบับดังกล่าวแบ่งเป็น ส่งให้ สนช. จนสำเร็จเป็นกฎหมาย 13 ฉบับ ติดค้างอยู่ที่ สนช. 12 ฉบับ ตกค้างกระทรวง 38 ฉบับ ซึ่งกฎหมายที่ตกค้างนั้น ล้วนแต่เป็นกฎหมายที่สำคัญ จึงขอให้ทางกระทรวงเร่งพิจารณาจัดทำให้แล้วเสร็จ รัฐบาลจะไม่ปล่อยปละละเลยให้เป็นไปตามยถากรรม เพราะกฎหมายเหล่านั้นถือว่าเป็นกฎหมายที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับกฎหมายอีก 71 ฉบับ แม้จะไม่เกี่ยวกับนโยบายแต่เป็นความจำเป็นของกระทรวง ซึ่งมีทั้งออกเป็นกฎหมายแล้ว และตกค้างระหว่างทาง ส่วนกฎหมายที่ตกค้างจากสภา หลังมีการยุบสภา มีร่าง พ.ร.บ. 100 ฉบับ พ.ร.ฎ. กฎกระทรวงกว่า 200 ฉบับ รวม 300 ฉบับ ในช่วง 9 เดือนเกิดสุญญากาศทางกฎหมาย ขณะเดียวกันกฎหมายที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในเดือน ม.ค. 2558 เบื้องต้น ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.การปรับเงินเดือนข้าราชการร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับชุมนุมสาธารณะ ร่าง พ.ร.บ.กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และร่าง พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับผลงานหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม เช่น กระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือสนับสนุนเงินและค่าใช้จ่ายแก่ผู้ยากไร้และด้อยโอกาสและไม่มีเงินประกันตัว ใช้เงิน 143 ราย รวมเป็นเงิน 21 ล้านบาทเศษ การปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดี 5 หมื่นคดี ยึดทรัพย์ 226 ล้านบาท เทียบช่วงปีที่ผ่านมา ด้านการต่อต้านการทุจริต คณะกรรมการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) รับเรื่องร้องเรียน 1,335 เรื่อง แบ่งมีมูลส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 199 เรื่อง ส่งพนักสอบสวน 19 เรื่อง ส่งอัยการ 27 เรื่อง รวม 245 เรื่อง รวมถึงตั้งกองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ขณะที่คดีบุกรุกป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมรับเป็นคดีพิเศษหลายเรื่อง
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ คือ ปรับเงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อย ออกหลักเกณฑ์โยกย้ายข้าราชการให้เป็นธรรม ปลอดการวิ่งเต้น ขณะที่ปฏิรูประบบราชการนั้นนายกฯให้นโยบายปฏิรูปโครงสร้าง บริการ และปรับลดอัตรากำลังให้เหมาะสม ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่เน้นปรับโครงสร้าง ยุบกระทรวง ถ้าจะทำขอให้ทำช่วงท้าย หรือทำรัฐบาลหน้า แต่ปรับให้บริการภาครัฐมีคุณภาพคืนความสะดวกประชาชนก่อน มีศูนย์วันสตอปเซอร์วิส ตามห้างร้าน รวมถึงร้านสะดวก ทำหนังสือเดินทาง ทำบัตรประชาชน คัดสำเนาทะเบียนบ้าน ทั่วประเทศ แก้ความยากจน แก้การไม่รักษากฎหมาย ที่ทำให้บางคนกำเริบ ไปข่มเหงรังแกคนยากจน ต่อด้วยงานปฏิรูป ช่วง 2 - 3 เดือนจากนี้ อันดับแรก ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การศึกษา จากนั้นรัฐบาลรับข้อเสนอมาลงมือทำในเรื่องที่ทำได้ สุดท้ายสร้างความปรองดองที่ต้องทำที่รากฐาน ไม่ใช่ นิรโทษปลายเหตุ และไม่ได้บอกว่าจะทำ หรือไม่ทำ แต่ต้องรอบคอบ
