“ประยุทธ์” ปาฐกถายุทธศาสตร์เสริมลงทุน ย้ำสถานการณ์ดีขึ้นแม้ติดลบ ดีกว่านี้อยู่ที่ความร่วมมือ ต้องใช้เวลาปฏิรูปทุกด้าน คาดปีหน้า ศก.โตร้อยละ 3.5-4.5 ลงทุนทะลุ 8 แสนล้าน ยันท่องเที่ยวดีขึ้น อัยการศึกไม่กระทบ ขอทุกภาคส่วนเสียสละ ลั่นไม่ทำให้ขาดทุน คาด 3 ปีเห็นผล ศก.ดีขึ้น ขอเลิกทะเลาะ ยันทำทุกอย่างเพื่อส่วนร่วม ขอให้รักน้อยๆ แต่รักนานๆ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนาในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ : เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” และปาฐกถาพิเศษเรื่อง ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนในระยะ 7 ปี (พ.ศ. 2558-2564) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ปี 56-57 ประเทศไทยมีความไม่สงบเกิดขึ้นซึ่งความขัดแย้งความจริงมีมาก่อนหน้านี้นานแล้ว และส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ทุกอย่างได้รับผลกระทบ แต่วันนี้ยืนยันว่าสถานการณ์เราดีขึ้นในระดับหนึ่ง ส่วนจะดีขึ้นไปกว่านี้หรือไม่อยู่ที่ความร่วมมือกัน มีความเป็นเสถียรภาพทางการเมืองมากขึ้น แต่เราต้องใช้เวลาในการปฏิรูปในทุกๆ ด้านตั้งแต่ฐานราก ความปรองดองและความสมานฉันท์ รวมทั้งการสร้างความเสมอภาค แม้วันนี้เศรษฐกิจไทยจะมีการติดลบแต่ก็ยังดีขึ้นบ้าง แม้จะยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก แต่เราก็ยังคาดหวังว่าปี 2558 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็น่าจะอยู่ที่ประมาณการร้อยละ 3.5-4.5 ความมั่นใจของนักลงทุนมีมากขึ้น โดยตัวเลขการขอรับการสนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนจากเดิมตัวเลขอยู่ที่ 7.6 แสนล้านบาท ปีนี้ก็น่าจะทะลุอยู่ที่ 8 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ยอดการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินเต็มทั้งหมด แต่ถ้าจะให้เทียบกับปีที่ผ่านมาก็ยังคงเทียบไม่ได้ เนื่องจากเราเจอสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบ แต่ยืนยันว่าดีขึ้น แม้การประมาณการณ์จากปีที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ 26.7 ล้านคน แต่ตัวเลขก็ทำได้ที่ 25 ล้านคน ก็ถือว่ายังดีและยืนยันว่ากฎหมายที่เราประกาศใช้ไม่ได้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวเลย แต่ทั้งหมดก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขอให้เสียสละบ้างหรือมีกำไรน้อยลงบ้าง ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำให้ขาดทุนอย่างแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้สถานการณ์และสิ่งต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นบ้านเมืองมีความสะอาด ถนนไม่รกรุงรัง การค้าขายริมถนนหรือริมทางเท้าก็ได้รับการปรับปรุง จากที่ไม่มีคนดูแลและปล่อยปละละเลย การจัดระเบียบครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะหาสถานที่ในการทำมาหากินให้กับทุกคนอย่างแน่นอนรับรองว่าจะมีรายได้เช่นเดิมกันทุกคน เพียงแต่ต้องเสียสละกันบ้าง นอกจากนี้ก็ขอให้พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น อย่าเอาเปรียบดูแลเรื่องของความปลอดภัย เรื่องของไกด์ ผู้ประกอบการจะต้องไม่โกง สิ่งเหล่านี้จะช่วยในภาพลักษณ์ของประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการค้า การลงทุนด้วยและขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งปรับโครงสร้างและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและปฏิรูปนโยบายจ่างๆ ให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์การพัฒนาและความต้องการของประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งแผนการลงทุน 7 ปี ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าภายใน 3 ปีจะเริ่มเห็นผล เศรษฐกิจจะดีขึ้น ทุกคนจะมีอาชีพและมีรายได้ ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งในการปรับปรุงกฎหมาย ลดสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานการส่งเสริมเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามา
“ขอให้เลิกทะเลาะเบาะแว้ง เรื่องของรัฐธรรมนูญ เรื่องสภาปฏิรูปแห่งชาติ อย่าได้ไปอะไรมากนักมันกินไม่ได้ ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม เพียงแต่ถ้าวันนี้เราไม่ทำ ก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ไม่มีใครเข้ามาทำและผมก็คงไม่อยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ก็ขอให้รักกันน้อยๆ แต่รักกันนานๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว