ภาคประชาชนโวย กสทช. งามหน้า เบี้ยวใส่เงินเข้าบัญชีแบงก์กรุงไทย จ่ายให้กับผู้ค้ากล่องเซตท็อปบ็อกซ์ทีวีดิจิตอล ทำผู้ประกอบการรายเล็กชะงักจำนวนมาก บริษัททุนหนาเท่านั้นที่อยู่ได้ ถามกลับใครได้ประโยชน์ อีกด้านชี้กำลังดิสเครดิตนโยบายคืนความสุขแก่ คสช.
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาฯ 35 กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประกาศคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยนโยบายเปลี่ยนผ่านระบบทีวีจากอนาลอกสู่ดิจิตอล และมีการแจกคูปองแลกกล่องรับสัญญาณระบบดิจิตอล (เซตท็อปบ็อกซ์) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท ผู้ค้าร่วมโครงการมากมาย มีการแจกคูปองส่งถึงบ้านแล้วนับล้านกล่อง แต่ปรากฏว่า นโยบายดังกล่าวชะงักงันลง เนื่องจากบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการนำคูปองและหลักฐานประกอบต่างๆ เพื่อไปขึ้นเงินกับธนาคารกรุงไทย ตามที่ กสทช. กำหนดแต่ไม่สามารถขึ้นเงินได้ เพราะ กสทช. ยังไม่ส่งเงินแก่ธนาคาร โดย กสทช. อ้างว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ผลจากที่ กสทช. ทำให้เกิดปัญหาชะงักงัน ได้ทำให้บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางได้รับผลกระทบด้านการเงินอย่างมาก ผู้ร่วมโครงการไม่ยอมนำกล่องเข้าตลาด เพราะไม่สามารถนำคูปองไปขึ้นเงินได้ ทำให้บริษัทใหญ่ที่มีทุนหนาเท่านั้นที่จะอยู่ได้ และจะทำให้ไม่เกิดการแข่งขันอย่างเสรีที่แท้จริง เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายของประชาชนทำให้ประชาชนถูกบังคับให้เลือกจากผู้ร่วมโครงการที่เหลือเพียงไม่กี่ยี่ห้อ ดังนั้น กสทช. ต้องตอบสังคมว่าใครได้ประโยชน์จากภาวะชะงักงันดังกล่าว
“กสทช. กำลังดิสเครดิตนโยบายคืนความสุขให้ประชาชนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกด้วย เพราะในคูปองก็ระบุว่าคืนความสุขให้ประชาชน แต่ กสทช. กำลังทำลายความสุขของประชาชน เพราะประชาชนไม่สามารถแลกคูปองมาดูทีวีดิจิตอลได้ จึงขอเรียกร้องให้ คสช. และองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ได้ตรวจสอบความผิดปกติเรื่องนี้ด้วย” นายอดุลย์ กล่าว
