“ประยุทธ์” เป็น ปธ.วันสิ่งแวดล้อมโลก เผย ธ.ค.เป็นต้นไปเห็นสิ่งที่รัฐทำ ตปท.พอใจลงทุน รับตื่นมาไร้ความสุข เร่งทุกอย่างก็ไม่ทันใจ เชิญ ปชช.ดูแลทรัพยากร ชี้ขยะปัญหาสำคัญ หวังปรับเป็นทอง ย้อนคนต้านโรงงานกำจัดขยะ พูดง่ายว่าไม่ต้องมีขยะ ขออย่าขัดแย้ง ทุก จว.ต้องมี เริ่มปีหน้าที่อยุธยา หวังเป็นรายได้ปชช. สร้างพลังงาน อ้างจัดการมลภาวะได้ จับตา รบ.หน้าทำตามที่ตนคิดหรือไม่ ปีหน้าประมูล 4 จี ปรับไอซีที ปัดยุบ CAT-TOT
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมไทย และวัน ทสม.แห่งชาติ “เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข” โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ดีใจที่เห็นทุกภาคส่วนร่วมมือในการทำให้บ้านเมืองสะอาดคนในชาติมีความสุข ตั้งแต่เดือน พ.ค.มาเราพยายามแก้ปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอด และตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไปจะปรากฎให้เห็นว่าเราทำอะไรมาบ้างในวันนี้ และ 1 ปีเรามีเวลาจำกัดที่เข้ามาดูแลตรงนี้ วันหน้าอย่ากังวลว่าประชาธิปไตย เลือกตั้งจะมายังไง รัฐธรรมนูญจะเขียนอย่างไร นั่นคือเรื่องของกฎกติกาโลก เราขัดแย้งไม่ได้ ก็ทำไป แต่จะทำอย่างไรให้การเมืองทำอย่างที่ประชาชนต้องการ และแบ่งปันให้คนอื่น ไม่ใช่เฉพาะพวกใดพวกหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็จะมีความเหลื่อมล้ำ มีความขัดแย้ง นอกจากนี้ วานนี้ (3 ธ.ค.) ตนได้คุยกับสภาหอการค้าต่างประเทศ ที่ลงทุนในประเทศไทย ซึ่งทุกคนมีความพึงพอใจ และรับปากว่าจะมาลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ในวันนี้ เพราะเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้สามารถดูแลประเทศชาติให้มีเสถียรภาพได้
“ตั้งแต่เป็นรัฐบาล ผมฝันไม่กี่เรื่อง เศรษฐกิจ น้ำ ยาง รถไฟ ข้าว อาวุธสงคราม ฝันอยู่แค่นี้ ตื่นมาไม่มีความสุขเลย เพราะมีแต่ปัญหา ไม่เคยฝันว่าจะได้ไปเที่ยวที่ไหนกับใครเลย เวลาก็จำกัด เร่งทำยังไม่ทันใจอีก และไม่ทันใจผมด้วย เพราะผมใจร้อน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันสิ่งแวดล้อมไทย จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนเริ่มดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมเผื่อแผ่ประโยชน์โดยไม่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน ใช้ธรรมชาติร่วมกันในการดำรงชีวิตต่อไป วันนี้โลกเรามีปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายด้าน ปัญหาที่สำคัญวันนี้คือปริมาณขยะ แต่เราจะทำขยะที่มีประโยชน์ให้เป็นทองคำ แต่เรายังขาดการบริหารจัดการที่ดี และความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังมีมาก ตนเห็นใจผู้ที่เดือดร้อนต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากจะขอให้ทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบ เราจะได้ดูแล
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า จากสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม และปริมาณคนก็มีมากขึ้น ตนจึงอยากให้คิดใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดอาชีพนอกจากการเกษตร เพราะเราต้องคำนึงถึงอุปสงค์ อุปทานว่ามีเท่าไหร่ ที่เหลือจะทำอะไร ไปทำอุตสาหกรรม วันนี้เราเปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ใครอยู่ตามแนวชายแดนก็ไปทำตรงนั้น ส่วนกทม.ก็ต้องวางผังเมืองใหม่ให้สวยงาม และสิ่งที่สำคัญในการจัดระเบียบชุมชนคือ ใจต้องเริ่มจากตัวเอง ใจต้องรักความสะอาด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สำหรับความขัดแย้งในการก่อสร้างโรงงานขยะ ตนสังเกตว่า มีคนมาต่อต้าน แล้วบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำ เพราะวุ่นวายเดือดร้อน ประชาชนมีปัญหา โดยแก้ปัญหาว่าไม่ต้องมีขยะ ซึ่งแบบนั้นพูดง่าย ไม่มีขยะก็ไม่ต้องมีโรงงานขยะ ไม่ต้องมีพนักงานเก็บขยะ แล้วมันไม่มีได้ยังไง ในเมื่อต้องมีการใช้สิ่งของต่างๆ ทุกคนก็สร้างขยะหมด ฉะนั้นเขาจึงไม่เข้าใจ สิ่งเหล่านี้ต้องอธิบายให้คนเข้าใจว่าขยะเกิดจากอะไร และสะสมเท่าไรในวันนี้ กำจัดได้จริงๆเท่าไร แล้วทิ้งขยะไว้เป็นภาระ และสร้างมลพิษในอนาคต ที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่เกิดมหาอุทกภัย ทหารก็ต้องเข้าไปเก็บขยะแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปไหนหมด ตนได้คาดโทษไปแล้วว่าต้องไม่เกิดขึ้นอีก ส่วนขยะที่เก็บได้ ต้องมาดูว่านำมาแปรรูปอะไรได้บ้าง มาฝังกลบก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าทำเป็นวงจรแบบนี้ก็จะมีอาชีพ มีรายได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องของขยะนั้นอยู่ที่คนทิ้งตนบอกแล้วว่าทำยังไง ให้จัดระเบียบได้แยกขยะได้ ก่อนนำเข้าสู่การกำจัด อย่าขัดแย้งกันมากนักเลย ถ้าขยะทิ้งไม่ได้แล้วจะเอาไปทิ้งที่ไหน สะสมวันละเป็นร้อยเป็นพันตัน ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ทุกจังหวัดต้องมีโรงงานขยะ จะตรงไหนไปหามา และทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับชุมชนบริเวณนั้น ตนได้เคยมีโอกาสคุยกับผู้ประกอบการขยะ เขาบอกว่า การกำจัดมลภาวะนั้น โรงงานสามารถทำได้ ไม่ใช่จะมาค้านทุกเรื่อง ต้องศึกษาดู ถ้าฝังกลบ วันหน้าก็เป็นพิษ เน่าเสีย ถ้ามีโรงงานกำจัดขยะก็ทำความร้อนให้เป็นพลังงานออกไป บ้านเราพลังงานไม่ยั่งยืน ยังต้องเชื่อมโยงจากนอกประเทศ ถ้าเขาไม่ส่งไฟ เราจะอยู่อย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ตอนนี้เราต้องสร้างโรงงานขยะเพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้า จึงอยากฝากคนในทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการลดสัดส่วนการใช้พลังงานจากน้ำมัน แก๊สเพื่อลดค่าใช้จ่ายประเทศ และนำเงินไปพัฒนาลงทุน ถ้าต้านกันหมดยังไงก็ไปไม่ได้ เรื่องน้ำ ไฟ พลังงาน ปนกันเละเทะ เรื่องพลังงานก็ต้องประหยัด ไม่ใช่ราคาถูกแล้วใช้เยอะ ทุกวันนี้ในทุกประเทศเลิกให้การอุดหนุนหมดแล้ว เพราะอุดหนุนตลอดรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ทั้งผลผลิตทางการเกษตร ที่ต้องมีกติกาโลก ก็ไปอุดหนุนก็ไม่ได้ ส่วนเรื่องของน้ำมัน พลังงาน ต่างประเทศก็เลิกให้การอุดหนุนเช่นกัน ถึงแม้จะผลิตเองได้ก็ตาม เพราะคุมโดยกติกาโลก ซึ่งเรากำลังปรับโครงสร้างให้เป็นธรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ถ้าบ้านเมืองสะอาดก็ทำให้สุขภาพจิตประชาชนดีขึ้น คนก็อยากมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น วันนี้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ตดีใจที่เราจัดระเบียบชายหาดได้ ร้านค้าก็โกรธหาว่าตนใจร้าย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคิดว่าทำอย่างไรให้คนเหล่านี้มีอาชีพ จะอยู่อย่างเดิมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็มีร้านลงไปถึงทะเล ไม่มีหาดเดิน ถ้าเป็นแบบนั้นตนคิดว่ามันไม่ใช่ประเทศ เพราะเคารพกฎ กติกาไม่ได้ ทั้งนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องรีบแก้ให้ได้ก่อน ถ้าทำไม่ได้วันหน้าก็จะเกิดอะไรไม่ได้ ป่าไม้ไม่มี น้ำไม่มี จะเอาอะไรมาเป็นหน้าตาประเทศ มาเป็นรายได้ประเทศ นอกจากนี้เรื่องสาธาณูปโภค ถนน เส้นทาง เราถือว่าดีกว่าหลายประเทศ เราต้องทำให้ดี รถไฟฟ้าในอนาคตต้องให้เกิด 10 สายให้ได้ และราคาต้องถูกลง ตนอยากให้คิดเรื่องเหล่านี้ไว้ในใจว่า เราต้องการรัฐบาลอย่างไร รัฐบาลที่คิดแบบนี้โดย รัฐบาลหน้าตนจะรอฟังว่ามีนโยบายใด ที่ทำอย่างตนคิดหรือเปล่า ไม่ใช่เข้ามาแล้วไม่ทำ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินมาที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จากนั้นเวลา 15.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆภายหลังการประชุมถึงแนวคิดที่จะให้มีการจัดตั้งโรงงานกำจัดขยะทั่วประเทศเพื่อใช้แปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการชี้แจงรายละเอียดกับประชาชนไปบ้างแล้ว โดยแห่งแรกจะเริ่มต้นดำเนินการในปี 2558 ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยด้วยว่า ในปี 2558 จะมีการประมูลโครงข่าย 4 จี โดยขณะนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตามกฎหมายหมายใหม่ก่อนนำเข้า สนช. ซึ่งจะคู่ขนานไปกับการดำเนินงานของคณะกรรมการ ที่ปรับโครงสร้างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปสู่กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจเและสังคม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการยุบบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด หรือ แคทเทเลคอม (CAT) และ บริษัท ทีโอที จำกัดมหาชน (TOT) ที่อยู่ภายใต้กระทรวงไอซีที แต่จะมีการปรับโครงสร้าง เพื่อไม่ให้การทำงานเกิดความซับซ้อน เพื่อความพร้อมก่อนเข้าสู่ภายใต้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจเและสังคม
