“สุริยะใส” เตือนสติ กมธ. ปรองดอง นิรโทษพวกที่ไม่ใช่แกนนำ รวมพวกคดีอาญาหนัก แนะทำตัวเลขรายละเอียดให้ชัด กันสังคมหวาดระแวงมีซ้อนเร้น ชี้ปรองดองได้ความจริงต้องปรากฏ พ่วงพวกได้นิรโทษแต่ยังไม่ยอมรับตัวเองผิด
วันนี้ (30 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แสดงความเห็นถึง ข้อเสนอ อนุกรรมาธิการ (กมธ.) ปรองดองนั้น เป็นข้อเสนอที่สังคมเคยพยายามเสนอกันมาแต่ล้มเหลว เพราะมีการลักไก่และบิดเบือนในขั้นตอนการออกกฎหมาย จนกลายเป็นวิกฤตการเมืองมาแล้ว โดยเฉพาะกรอบของการนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมที่ไม่ใช่แกนนำ แต่ไม่รวมคดีอาญาร้ายแรง คดีทุจริตและคดี ม.112 และผู้ชุมนุมที่ไม่ใช่แกนนำและติดคุกอยู่ในขณะนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ทั้งนั้น เช่น เผาศาลากลาง ครอบครองอาวุธสงคราม หรือ ม.112 เป็นคดีร้ายแรงประมาณ 30 คน ศาลก็เริ่มให้ประกันตัวไปบ้างแล้ว
นายสุริยะใส ระบุต่อว่า แต่คนที่มีคดีติดตัวและยังไม่ตัดสินหรือไม่ถูกจำคุกหรืออาจได้ประกันตัว เพราะเป็นคดีไม่ร้ายแรงนั้น คนกลุ่มนี้อาจมีประมาณ 2 พันคน มีทุกกลุ่มทุกสี ซึ่งก็น่าเห็นใจ ต้องไปทำตัวเลข เอาข้อมูล เอารายละเอียดของคดีออกมา สังคมจะได้เห็นว่าใครบ้างจะได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมตามกรอบนี้ จะได้ไม่หวาดระแวงว่าจะมีการซุกวาระซ่อนเร้นกันอีกหรือไม่ ส่วนเรื่องให้มีตัวแทนแต่ละฝ่ายไปเป็นกรรมการพิจารณา ก็ต้องดูความเหมาะสมว่าจะมาจากไหนบ้าง ใครจะเป็นตัวแทนที่ยอมรับกันได้จริง หรือจะขยายองค์ประกอบให้กว้างขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นเรื่องของผู้มีส่วนได้เสียในวงแคบ
นายสุริยะใส ระบุต่ออีกว่า หลักสำคัญการปรองดองที่ต้องคำนึงคือต้องทำความจริงให้ปรากฏก่อน เพราะการนิรโทษเป็นเพียงมาตรการหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด ที่น่าห่วงคือคนที่ได้รับการนิรโทษ แต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิดก็จะขัดกับหลักปรองดอง ถ้าจะปัดฝุ่นมาเสนอกันใหม่ก็ต้องรอบคอบและรัฐบาลต้องแสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน ถามความเห็นหลายฝ่ายจริงๆ เพราะเรื่องนี้ยังมีสัญญานที่อึมครึมจาก คสช. และรัฐบาล