โฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เผยคณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูปประเทศนัดประชุมพรุ่งนี้ เตรียมกำหนดท่าทีกรณีทหารคุกคามไทยพีบีเอส ระบุรัฐเริ่มรับฟังพร้อมปรับท่าที แนะสื่อช่วยกันบี้เลิกคำสั่ง คสช.ขวางปฏิบัติงาน
วันนี้ (16 พ.ย.) นายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ และโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที่ 17 พ.ย. เวลา 10.00 น. คณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตัวแทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ตัวแทนสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตัวแทนสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ และตัวแทนภาคประชาสังคม โดยมี นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นประธาน นัดประชุมกันเป็นครั้งที่ 2 และนัดหมายล่วงหน้าแล้ว แต่คงจะมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นต่อสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสขึ้นมาพูดคุยกัน และกำหนดท่าทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเท่าที่ทราบผลจากการเคลื่อนไหวของสื่อมวลชนภาคสนามเมื่อวันที่ 15 พ.ย.นั้น ทำให้ฝ่ายรัฐบาลและความมั่นคงมีท่าทีรับฟังพอสมควร และจะปรับท่าทีให้ผ่อนคลายลง และจะมีความชัดเจนต่อเรื่องนี้มากขึ้น จึงอาจจะไม่ต้องยื่นหนังสือเรียกร้องก็ได้
สำหรับการเคลื่อนไหวให้ยกเลิกประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะประกาศฉบับที่ 97 และ 103 ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนนั้น นายมานพ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ ซึ่งการยกเลิกประกาศ หรือคำสั่งของ คสช. ที่เทียบเท่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งหากยังมีประกาศดังกล่าวอยู่ก็จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการพูดคุยเพื่อการปฏิรูปที่สื่อต้องถ่ายทอดความเห็นการปฏิรูปของประชาชนเห็นต่างได้ เพราะไม่เอื้อให้สื่อมีเสรีภาพ
วันนี้ (16 พ.ย.) นายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ และโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที่ 17 พ.ย. เวลา 10.00 น. คณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตัวแทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ตัวแทนสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตัวแทนสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ และตัวแทนภาคประชาสังคม โดยมี นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นประธาน นัดประชุมกันเป็นครั้งที่ 2 และนัดหมายล่วงหน้าแล้ว แต่คงจะมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นต่อสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสขึ้นมาพูดคุยกัน และกำหนดท่าทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเท่าที่ทราบผลจากการเคลื่อนไหวของสื่อมวลชนภาคสนามเมื่อวันที่ 15 พ.ย.นั้น ทำให้ฝ่ายรัฐบาลและความมั่นคงมีท่าทีรับฟังพอสมควร และจะปรับท่าทีให้ผ่อนคลายลง และจะมีความชัดเจนต่อเรื่องนี้มากขึ้น จึงอาจจะไม่ต้องยื่นหนังสือเรียกร้องก็ได้
สำหรับการเคลื่อนไหวให้ยกเลิกประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะประกาศฉบับที่ 97 และ 103 ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนนั้น นายมานพ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ ซึ่งการยกเลิกประกาศ หรือคำสั่งของ คสช. ที่เทียบเท่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งหากยังมีประกาศดังกล่าวอยู่ก็จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการพูดคุยเพื่อการปฏิรูปที่สื่อต้องถ่ายทอดความเห็นการปฏิรูปของประชาชนเห็นต่างได้ เพราะไม่เอื้อให้สื่อมีเสรีภาพ