รองนายกฯ ระบุภาษีมรดก หวังลดความเหลื่อมล้ำสังคม เชื่อเศรษฐีไม่ขนเงินออกนอกประเทศ เหตุเก็บอย่างเป็นธรรม 50 ล้านแรกไม่ต้องเสียภาษี ถ้าเป็นหนี้หักก่อน แนะใครอยากเลี่ยงเอาไปช่วยการกุศลไม่เก็บ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาษีมรดกที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่คงไม่ถึงขนาดขัดแย้งเพราะที่ผ่านมาสังคมพูดเรื่องนี้กันมาพอสมควรแล้ว และมองว่าเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมซึ่งสังคมก็เรียกร้องอยู่ เพียงแต่ว่าต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าไม่ได้ไปรังแกคนยากจน คนเบี้ยน้อยหอยน้อย หรือแม้แต่คนที่ร่ำรวย มั่งคั่งจะไม่ขนเงินออกไปนอกประเทศกันหมด ให้เขามีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมตรงนี้กับเขาได้ ซึ่งในหลักการของกฎหมายภาษีมรดกก็ให้ความเป็นธรรมพอสมควร หลายประเทศเขาเก็บภาษีจากบาทแรกของมรดก แต่ของเรา 50 ล้านบาทแรกไม่เสียภาษีมรดก เสียตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป และถ้ามีหนี้ก็ให้ไปหักหนี้ก่อนด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจจะไล่ตามเก็บภาษีจากเศรษฐีในบ้านเราได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คงไม่ได้ตั้งใจไปไล่ตาม แต่มีกำหนดขึ้นมาเป็นระบบไว้แล้วก็เก็บไปเท่าที่เก็บได้เหมือนภาษีทั้งหลาย แม้ว่าจะเล็ดลอดไปได้บ้างก็ยังดีเพราะทำให้คนจำนวนหนึ่งได้มองเห็นว่าในสังคมนี้ยังมีการลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างตรงนี้
“รัฐบาลต้องการตรงนี้ให้เห็นเท่านั้น รัฐบาลไม่ได้ต้องการเอาภาษีนี้มาทำอะไร ตรงกันข้าม ใครก็ตามที่มีมรดกแล้วเอามรดกนั้นไปตั้งมูลนิธิ รัฐบาลไม่เก็บเลย ไม่อยากได้เลย วันนี้ใครหนีเอาไปทำแบบนี้ได้ ก็สาธุด้วย ถ้าเอาไปทำการกุศล ให้วัด ให้โรงพยาบาล การศึกษา ถ้าให้องค์กรเหล่านี้รัฐบาลไม่เก็บภาษี แต่ถ้าอยู่ดีๆ ได้เงินมา เหมือนที่มีข่าวสังคม ได้มาฟรีๆ เปล่าๆ ก็ต้องเสียภาษีคืนกลับสังคมบ้าง”