โฆษกวิป สนช.เผยเปิดให้สมาชิก สนช.แสดงความจำนงเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญภายใน 28 ต.ค. และคัดเลือกให้เหลือ 5 คน ก่อนเสนอชื่อต่อที่ประชุม 30 ต.ค. ด้านแหล่งข่าว สนช.ระบุถอดถอน “สมศักดิ์-นิคม” ต้องใช้ 132 เสียงซึ่งเป็นเรื่องยาก เชื่อหลายคนงดออกเสียง
วันนี้ (21 ต.ค.) นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือวิป สนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการสรรหากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนของ สนช.จำนวน 5 คน ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการเปิดให้สมาชิก สนช.แสดงความจำนงเพื่อเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้สมาชิกยื่นความจำนง ก่อนวันที่ 28 ต.ค.นี้ และหลังจากนั้น วิป สนช.จะนำรายชื่อทั้งหมดเพื่อเข้าหารือในที่ประชุมวิป สนช. ซึ่งหากสมาชิกแจ้งความจำนงเกิน 5 คน ทางวิป สนช.จะดำเนินการคัดเลือกให้เหลือเพียง 5 คน จากนั้นจะเสนอรายชื่อดังกล่าวต่อที่ประชุม สนช.ในวันที่ 30 ต.ค. เพื่อให้ที่ประชุมลงมติเลือกต่อไป แต่ หากสมาชิกต้องการเสนอชื่อใครเพิ่มเติ่มในที่ประชุมก็จะไม่มีการตัดสิทธิการเสนอชื่อของสมาชิก เชื่อว่าจะได้ชื่อตัวแทนไปเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ แน่นอน
นพ.เจตน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมวิป สนช.ยังได้พิจารณาในเรื่องของการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา โดยที่ประชุมได้มีมติให้มีการแจกสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.ให้กับสมาชิก สนช.ทุกคน ซึ่งเป็นเอกสารลับ จำนวน 3 ชุด เพื่อให้สมาชิกได้พิจารณาสำนวนประกอบการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในที่ประชุม สนช.อีกครั้ง
แหล่งข่าวจาก สนช.เปิดเผยว่า สมาชิกได้ทยอยรับเอกสารการไต่สวนกรณีดังกล่าวของ ป.ป.ช.แล้ว ซึ่งทั้งสองสำนวนมีประมาณ 10,000 กว่าหน้ากระดาษ ส่วนการลงมติถอดถอนต้องใช้คะแนน 3 ใน 5 หรือประมาณ 132 เสียงเป็นเรื่องที่ยาก แต่เชื่อว่าแต่ละคนมีคำตอบอยู่ในใจว่าจะตัดสินใจอย่างไรอยู่แล้ว และหลายคนอาจตัดสินใจงดออกเสียง