ผ่าประเด็นร้อน
เชื่อว่าหลายฝ่ายกำลังจับตางานศพของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะนำศพกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 10 ตุลาคม และนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางไผ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี แน่นอนว่าภายในงานจะต้องการเป็นชุมนุมของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง นักการเมืองในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร ต้องเดินกันขวักไขว่แน่นอน
ขณะเดียวกัน รายการแบบนี้ต้องได้รับการเขม้นมองอย่างใกล้ชิดจากศูนย์อำนาจใหม่ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลแน่นอน เท่าที่เห็นมีการส่งเสียงคำรามออกมาจาก “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ดูแลด้านความมั่นคง แบบเข้มว่า “ห้ามเคลื่อนไหวป่วน” เด็ดขาด เป็นการพูดดักทางเอาไว้ล่วงหน้า เหมือนกับรู้ทันว่าต้องมีการเคลื่อนไหวกันแบบ “เนียนๆ” แบบฉวยจังหวะรวมกลุ่มของคนเสื้อแดง และเครือข่ายระบอบทักษิณในเวลาเดียวกันแน่
แม้ว่าในความเป็นจริงภายในงานย่อมต้องเป็นบรรยากาศไว้อาลัยผู้ตายคือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย สมาชิกคนสำคัญในพรรคเพื่อไทย และในแกนนำคนเสื้อแดง เชื่อว่าภายในงานศพจะต้องมีบุคคลสำคัญในเครือข่ายดังกล่าวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บางคนที่ก่อนหน้าก่อนหน้านี้ตั้งแต่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกิดขึ้น ก็หลบหลีกเร้นกาย แบบ “แกล้งตาย” กันไปแล้ว แต่คราวนี้เชื่อว่าจะได้เห็นหน้าตากันอีกครั้ง
แน่นอนว่าเราจะได้เห็นการเคลื่อนไหวของคนในครอบครัวชินวัตรออกมากันแบบพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นต้น จะต้องร่วมกันเป็นประธานเป็นเจ้าภาพภายในงานซึ่งจะต้องเห็นภาพแบบนี้อยู่แล้ว
สิ่งที่น่าจับตาต่อเนื่องกันก็คือ บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้หลายคนเคยกบดานแกล้งตาย สงบปากสงบคำยุติการเคลื่อนไหวชั่วคราว แต่คราวนี้ต้องโผล่ออกมาจะมีการแสดงความคิดเห็นในทางเปิดเผยบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้นจะมีรายการฝากข้อความ หรือมีการ “ส่งสัญญาณทางไกล” มาจากทักษิณ ชินวัตร ด้วยหรือไม่ เพราะในบรรยากาศแบบนี้ที่ผ่านมาไม่ค่อยพลาด จะมีรายการ “แฝง” ให้ชวนติดตามอยู่เสมอ และคราวนี้ก็น่าจับตามองเช่นเดียวกันว่าจะมีรายการแบบนี้ออกมาอีกหรือเปล่า และนี่แหละอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ “ขาใหญ่” ใน คสช.ต้องออกมาปรามกันล่วงหน้าหรือเปล่า
จะว่าไปแล้วต้องเป็นเรื่องปกติที่ในงานบำเพ็ญกุศลผู้เสียชีวิตที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดง เป็นระดับคนสำคัญในพรรคเพื่อไทย ก็ย่อมต้องมีแขกเหรื่อมาเคารพศพกันจำนวนมาก และเชื่อว่าจะเป็นวันชุมนุมคนเสื้อแดงอย่างไม่เป็นทางการวันหนึ่ง นับตั้งแต่มีการควบคุมอำนาจล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมาเลยก็ว่าได้
อย่าได้แปลกใจที่ก่อนหน้านั้นไม่นานจะได้รับการส่งเสียงเตือนแบบเข้มมาแล้ว นอกเหนือจากรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้ว ยังมีเตือนออกมาจากปากของ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดก็คือ การคงประกาศกฎอัยการศึกทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อไปตามเดิม ตีกลับข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้ยกเลิกในบางพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่การท่องเที่ยว เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีวั่นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
ความตึงเครียดเท่าที่เห็นก็คือได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้มีคนติดตามดูแลความเรียบร้อยในงานศพอย่างใกล้ชิด โดยคนที่รับผิดชอบโดยตรงที่ออกหน้าก็คือ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ 10 มีการเรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การไปรับศพและเคลื่อนขบวนมาจนถึงวัดบางไผ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีกันเลยทีเดียว แน่นอนว่า ยังมีการติดตามตรวจสอบในทางลับอย่างเข้มงวดด้วย
หากให้สรุปโดยพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็น่าจะเดาทางออกว่าทางฝ่ายคนเสื้อแดงก็คงต้องมีการเคลื่อนไหวแสดงพลังในแบบสัญลักษณ์ในทางปริมาณนั่นคือในระดับหัวแถวคงมากันครบครัน แต่คงไม่มีแสดงอาการฮึดฮัดอะไรออกมา แต่หากปริมาณของมวลชนที่มากันหนาแน่นก็ย่อมหมายถึงคำตอบที่ย้อนกลับไปแล้ว ขณะที่ฝ่ายกลุ่ม “อำนาจใหม่” ก็ย่อมคุมเข้มจับตาอย่างใกล้ชิด ส่วนในทางลับจะมีการกำชับอะไรกันบางอย่างหรือไม่ ของแบบนี้น่าจะพอเดาออก
ดังนั้นถ้าให้เห็นภาพอีกทีก็ต้องบอกว่านี่คือรายการหยั่งเชิง แหย่ คสช.แบบเนียนๆ เท่านั้น!!