“เจิมศักดิ์” ระบุ ประธาน สปช.ต้องมีบารมี มองไปข้างหน้ามากกว่าแค่ควบคุมการประชุม เชื่อ 1 ปีทำได้ไม่หมดทุกเรื่อง แนะการปฏิรูปควรทำเรื่องใหญ่ๆ ก่อน ทั้งเรื่องการเข้าสู่อำนาจรัฐ ป้องกันการผูกขาดอำนาจ พร้อมเสนอทำประชามติในการร่างรัฐธรรมนูญ
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวภายหลังการเข้ารายงานตัวเกี่ยวกับบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธาน สนช.ว่า ขณะนี้ในใจยังไม่มีรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะมาเป็นประธาน สปช. แต่เห็นว่าคนที่จะมาทำหน้าที่ประธาน สปช.จะต้องมีบารมีพอสมควร และต้องมองไปข้างหน้ามากกว่าแค่การควบคุมการประชุมเท่านั้น เพราะสปช.มีหน้าที่สำคัญทั้งการทำรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูป
ทั้งนี้ การทำงานของ สปช.ควรจะต้องประชุมตกลงทิศทางการทำงาน โดยจะต้องกำหนดทิศทางกันให้ชัดทั้งเรื่องลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ทำลายโอกาสคนมีโอกาส แต่เสริมโอกาสให้คนด้อยโอกาส ก่อนจะจะแยกย้ายไปประชุมในแต่ละด้าน 11 ด้านเพื่อความรวดเร็ว และทำให้ให้การเดินทำงานไม่ขัดแย้งกันเองในวันข้างหน้า
นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า การทำงานของ สปช.จะต้องผูกพันกับประชาชน ลงไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงการทำรัฐธรรมนูญที่ควรจะต้องมีการทำประชามติ เพื่อทำให้เกิดการยอมรับจากประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา นอกจากนี้ การที่ สปช.มีตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้ามาร่วมงานน้อยย่อมทำให้เกิดปัญหาไม่มีการยึดโยงจากประชาชน ดังนั้น สปช.จึงยิ่งต้องฟังเสียงของประชาชนให้มาก ไม่เช่นนั้นต่อไปในการหาเสียงเลือกตั้งอาจถูกพรรคการเมืองหยิบยกประเด็นว่าจะเข้ามาแก้ไขในสิ่งที่ทำไปแล้วซึ่งจะทำให้การปฏิรูปไม่เกิดประโยชน์
“ผมเห็นว่าการทำงาน 1 ปีของ สปช.น่าจะทำได้ไม่หมดทุกเรื่อง แต่ในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญคงทำได้เสร็จก่อน ส่วนเรื่องการปฏิรูปก็ควรทำเรื่องใหญ่ๆ ก่อน โดยจัดลำดับความสำคัญอย่างเรื่องการเข้าสู่อำนาจรัฐป้องกันผูกขาดอำนาจรัฐ โดยจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ”