ประชุม สนช.ถกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง-จัด คกก. รมว.พม.นั่งปธ. “วัลลภ” ชี้เรื่องดีช่วยให้โอกาสคน แนะเปลี่ยนชื่อร่าง เหตุไม่ควรทำแบบสงเคราะห์อย่างเดียว ควรพัฒนาให้พึ่งพาตัวเอง “คุณหญิงทรงสุดา” สงสัยร่วมต่างด้าวด้วยหรือไม่ แนะเน้นพัฒนาสร้างอาชีพ “อดุลย์” แจงเฉพาะคนไทย ตรา กม.เพื่อพัฒนาบุคคล ก่อนมีมติดันร่างผ่านฉลุย
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ตามกระทรวงที่เสนอโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีหลักการและเหตุผล คือ การวางมาตรการคุ้มครองให้คนไร้ที่พึ่งสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป และกำหนดนิยามให้คนไร้ที่พึ่ง ว่า “เป็นบุคคลซึ่งไร้ที่อยู่และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ” โดยให้รวมถึงบุคคลที่อยู่ในสภาวะยากลำบากและไม่อาจพึ่งพาบุคคลอื่นได้ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประกาศกำหนด อีกทั้งยังกำหนดความหมายของการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเอาไว้ว่า เป็นการจัดสวัสดิการสังคม การเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายจิตใจ การรักษาพยาบาล การส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ การส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างโอกาสในสังคม การพัฒนาคุณภาพชีวิต การสนับสนุนให้คนไร้ที่พึ่งมีงานทำและมีที่พักอาศัย และการป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อคนไร้ที่พึ่ง
นอกจากนี้ยังจัดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ประกอบด้วย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นรองประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 7 คนเป็นกรรมการ โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง การสังคมสงเคราะห์หรือการจัดสวัสดิการสังคม
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นเรื่องที่ดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือคนให้มีโอกาส อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งไม่ควรทำในลักษณะของการสงเคราะห์เพียงอย่างเดียว แต่ควรจัดทำกระบวนการของการพัฒนาและการเสริมสร้างโอกาสให้กับคนไร้ที่พึ่งสามารถพึ่งพาตัวเองได้ จึงคิดว่าควรเปลี่ยนชื่อร่าง พ.ร.บ.ใหม่เพื่อให้สร้างกรอบความคิดในการพัฒนามากกว่าการให้การสงเคราะห์เพียงอย่างเดียว
คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สมาชิก สนช.ตั้งข้อสังเกตว่า คำว่าคนไร้ที่พึ่งตามกฎหมายดังกล่าวจะหมายความรวมถึงคนต่างด้าวด้วยหรือไม่ และการให้ความช่วยเหลือจะเป็นในลักษณะใด ขณะเดียวกัน คิดว่าในเมื่อมีกฎหมายฉบับนี้แล้วก็ควรเน้นหนักในการพัฒนาบุคคลและการสร้างอาชีพให้กับคนไร้ที่พึ่งด้วย
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้และให้ความช่วยเหลือเฉพาะคนไทยเท่านั้น ส่วนบุคคลต่างด้าวจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน และยืนยันว่าการตราร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นไปเพื่อการพัฒนาบุคคลโดยเฉพาะการสร้างอาชีพ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์ 143 เสียงรับหลักการร่างดังกล่าวพร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาในรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
