“วีรชน” ประสานสื่อ ปมทุบหรือปรับปรุงรังนกกระจอก โชว์ภาพที่พักสื่อใหม่ “บิ๊กตู่” เห็นชอบ แต่ห้ามบันทึกภาพ แจงแบบเดิมไม่รับสถาปัตยกรรมโดยรอบ ตั้งงบ 2 ล้านกว่า มีข้อสรุปลงมือทันที ใช้เวลา 2-3 เดือน ย้ายสื่อทำงานตู้คอนเทนเนอร์ สื่อรวมชื่อค้าน แต่ไม่ขัดถ้าภูมิทัศน์ดีขึ้น แต่ต้องกลับที่เดิมตามสัญญา
วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ว่า ตลอดทั้งวัน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานนายกรัฐมนตรี ได้ประสานงานกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติเรื่องการปรับปรุงสถานที่ทำงานของสื่อมวลชนหรือรังนกกระจอกรังเก่า บริเวณด้านหน้าตึกนารีสโมสร ที่จากเดิมเคยมีปัญหาต่อต้านกรณีจะมีการทุบทิ้ง โดย พ.อ.วีรชนได้นำภาพของรังนกกระจอกที่จะมีการปรับปรุงใหม่มาให้สื่อมวลชนดู แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยระบุด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสืบเนื่องจากในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ลงมาดูพื้นที่การทำงานของสื่อมวลชนที่มีอยู่ทั้ง 3 จุดในทำเนียบรัฐบาล และพบว่ารังนกกระจอกซึ่งเป็นที่ทำงานของนักข่าวกว่า 30 ปี มีลักษณะสถานที่ไม่รับกับสถาปัตยกรรมโดยรอบ ทั้งตึกนารีสโมสร และตึกไทยคู่ฟ้า จึงได้มีคำสั่งให้สถาปนิกออกแบบรังนกกระจอกใหม่ ให้สวยงามและเข้ากับสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ พ.อ.วีรชนระบุว่า แบบดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งจะใช้งบประมาณในการซ่อมแซมห้องพักสื่อมวลชนทั้ง 3 จุดในวงเงิน 2,020,000 บาท ทั้งนี้เป็นการคำนวณจากสถาปนิกของกรมโยธาธิการและผังเมือง เบื้องต้นรังนกกระจอกเก่าจะใช้งบประมาณประมาณ 622,000 บาท โดยอาจมีการปรับเพิ่มตามความเหมาะสมแต่จะไม่ให้ราคาสูงเกินความจำเป็น
พ.อ.วีรชนกล่าวว่า หลังจากได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ผู้รับเหมาจะเข้าดำเนินการทันที โดยยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องทุบตึกเดิมและสร้างตึกใหม่เพื่อความรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 60-90 วันโดยประมาณ และระหว่างการรื้อถอนจะให้สื่อมวลชนประจำอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกปรับให้เป็นออฟฟิตชั่วคราว โดยตั้งบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่เดิม อีกทั้งได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่าหลังก่อสร้างแล้วเสร็จจะให้สื่อมวลชนกลับมาประจำในห้องปฏิบัติการเดิมอย่างแน่นอน
“เรื่องดังกล่าวนายกรัฐมนตรีได้ปรารภกับคณะทำงานว่ามองลงแล้วห้องพักสื่อมวลชนหรือรังนกกระจอกนั้นไม่กลมกลืนกับตึกไทยคู่ฟ้า และตึกนารีสโมสร จึงต้องการให้ปรับปรุงเพื่อเข้ากับสถาปัตยกรรมในภาพรวม และต้องการให้สื่อมวลชนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเรียบร้อย” พ.อ.วีระชนกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันสื่อมวลชนประจำรังนกกระจอกได้รวบรวมรายชื่อ เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่ต้องการให้ทุบรังนกกระจอกทิ้ง เพราะเห็นว่าเป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและมีประวัติศาสตร์ทางการเมืองมายาวนาน เสนอไปยังเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่หากจะทุบก็ไม่ขัด ถ้าทำให้ภูมิทัศน์ในทำเนียบรัฐบาลดีขึ้น เพียงแต่ขอให้สื่อมวลชนกลับมาอยู่ที่เดิมตามที่ตกลงกันไว้ เนื่องจากจุดนี้ถือเป็นสถานที่ทำงานจุดแรกในทำเนียบรัฐบาลของสื่อมวลชน และเป็นจุดที่มีภูมิทัศน์เหมาะต่อการติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ในทำเนียบรัฐบาลได้อย่างเหมาะสม