เลขาฯ กกต.ย้ำสรรหา สปช.น่าจะได้ชื่อ 19 ก.ย. เผยจังหวัดคัดเสร็จแล้ว 49 แห่ง ชี้พวกคนเดียวถูกเสนอชื่อมากกว่า 2 องค์กรขัดกฎหมายชัด พบมี 20 องค์กร รวม 203 คน มีพวกถูกเสนอมากกว่า 1 ด้าน 5 คน เผยบางคนมาติดต่อขอเลือกแล้ว ป้องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โยน กก.สรรหาใช้ดุลพินิจเอา
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงถึงความคืบหน้าประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 77 จังหวัด ว่า วันนี้ (17 ก.ย.) คณะกรรมการสรรหา สปช.ที่เหลืออีก 7 ด้านจะมีการหารือกันอีกครั้ง ในเวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ที่กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน.4 รอ.) ซึ่งถ้าแล้วเสร็จคาดว่าวันที่ 19 ก.ย.สามารถนำรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละ 50 รายชื่อ เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ ส่วนคณะกรรมการสรรหา สปช.ระดับจังหวัด ขณะนี้มีจังหวัดที่สามารถคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.จังหวัดละ 5 คนได้เรียบร้อยแล้ว 49 จังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 28 จังหวัดนั้นจะทยอยประชุมไปจนถึงวันที่ 22 ก.ย.นี้ ดังนั้น คาดว่าในวันที่ 23 ก.ย.จะสามารถนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.ในระดับจังหวัดเสนอให้ คสช.พิจารณาได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
นายภุชงค์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง คณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านอื่นๆ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ระบุเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็น สปช.ขององค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร และกรณีที่มีบุคคลถูกเสนอชื่อมากกว่า 2 องค์กรว่า ปัญหาดังกล่าว สำนักงาน กกต.เคยหารือกับ คสช.ตั้งแต่ก่อนเปิดรับการเสนอชื่อแล้ว การกระทำดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่เมื่อตรวจพบ สำนักงาน กกต.จะทำหมายเหตุให้คณะกรรมการสรรหาได้รับทราบ ที่ผ่านมาพบว่ามีองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นเสนอรายชื่อบุคคลมากกว่า 2 คน ตามที่กฎหมายกำหนดนั้น เพียง 20 องค์กร จาก 4,545 องค์กร ส่วนบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเพื่อรับการสรรหาทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัดนั้น มีเพียง 203 คน นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีบุคคลที่ยื่นเสนอชื่อเกิน 1 ด้าน จำนวน 5 คน อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่รู้ว่าตนถูกเสนอชื่อเกินหนึ่งด้าน ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเลือกที่จะเข้ารับการสรรหาด้านใดด้านหนึ่ง
ทั้งนี้ นายภุชงค์ยอมรับว่ากรณีที่มีบุคคลถูกเสนอขื่อมากกว่า 2 องค์กรอาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่อยากมองว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้ได้เปรียบบุคคลอื่นๆ และไม่น่าจะมีการนำประเด็นดังกล่าวไปเป็นเรื่องร้องเรียนภายหลัง เพราะเมื่อดูจำนวนมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด ตนเชื่อว่าองค์กรนิติบุคลไม่มีเจตนา แต่เป็นลักษณะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหาที่จะพิจารณาว่าจะเลือกบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งทางสำนัก กกต.ก็ไม่สามารถตัดสิทธิบุคคลเหล่านี้ได้