เผยผลประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียนครั้งที่ 8 ลุล่วง ทุกชาติร่วมมือภัยคุกคามโจรสลัด ค้ามนุษย์ทางทะเล ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครั้งหน้าจัดที่พม่า ปี 59 จัดที่มาเลย์ เผยปี 60 ไทยขอเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ครบรอบ 50 ปีอาเซียน จัดสวนสนามทางเรือของเรือรบในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่พัทยา อีกด้านเสนอจัดฝึกร่วมในกลุ่มอาเซียน จากเดิมฝึกระดับพหุภาคี
วันนี้ (27 ส.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียนครั้งที่ 8 ซึ่งในปีนี้ กองทัพเรือไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือจากประเทศต่างๆ ในอาเซียน เข้าร่วมประชุมที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ว่า การประชุมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทุกประเทศในอาเซียนมีความสมัครสมานสามัคคีกันเป็นอย่างดี กองทัพเรือทุกประเทศมีการผนึกกำลังร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคมีความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากโจรสลัด การลักลอบค้ามนุษย์ทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล โดยเรื่องที่ค้างคาจากการประชุมในครั้งที่แล้ว ที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันในทุกเรื่อง
สำหรับในปีหน้า ซึ่งเป็นครั้งที่ 9 สหภาพพม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ส่วนครั้งที่ 10 ในปี 2559 นั้น ประเทศมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ส่วนในปี 2560 ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 50 ปีอาเซียนนั้น ประเทศไทยได้เสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอีกครั้ง เนื่องจากอาเซียนเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ดังนั้น ในโอกาสอันสำคัญนี้จึงได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษ คือ การสวนสนามทางเรือของเรือรบในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่พัทยา นอกจากนั้น กองทัพเรือไทยได้เสนอขอให้มีการจัดการฝึกร่วม ระหว่างกองทัพเรือในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งโดยปกติจะมีการฝึกในระดับทวิภาคีระหว่างสองประเทศ แต่ในปี 2560 จะจัดให้มีการฝึกร่วมทางทะเลของทุกประเทศในอาเซียน เป็นครั้งแรก
สำหรับข้อเสนอที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า มาเลเซียได้เสนอให้เชิญประเทศอื่นนอกเหนืออาเซียนเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง นอกจากนั้น ในส่วนของฟิลิปปินส์ ได้เสนอการจัดทำคู่มือการปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกัน และจะมีการประชุมหารือกันต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการประชุมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ทุกประเทศในอาเซียนได้ประโยชน์ เพราะทุกประเทศต่างก็ได้มีการหารือร่วมกัน เพียงแต่ว่าในครั้งนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จึงได้ประโยชน์มากกว่าประเทศอื่น ตรงที่ทำให้ประเทศในอาเซียนที่เข้าร่วมประชุมได้เห็นสภาพการณ์ของประเทศไทยว่ามีความสงบเรียบร้อย ไม่มีภัยคุกคาม หรือขัดขวางในเรื่องการท่องเที่ยว เมืองไทยมีความสงบร่มเย็น