กกต. มีมติส่งศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง “ลีน่า จังจรรจา” ทำป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ส.ว.กรุงเทพฯ อ้างจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน ทวงคืน ปตท. เข้าข่ายหลอกลวง ชี้เคยถูกเพิกถอนสิทธิตอนสมัครผู้ว่าฯ กทม. ปี 47 ขาดคุณสมบัติเป็น สปช. ก่อนแล้ว
วันนี้ (15 ส.ค.) นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินัย แถลงว่า กกต. มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นางลีน่า จังจรรจา ผู้สมัคร ส.ว.กทม. หมายเลข 3 พร้อมดำเนินคดีอาญา จากกรณีปรากฏหลักฐานว่าในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสมาชิกกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 57 ป้ายหาเสียงนางลีน่า ที่มีข้อความว่า “ยกเลิกกองทุนน้ำมัน คนไทยใข้น้ำมันเบนซินลิตรละ 20 บาท ลีน่า จังจรรจา เบอร์ 3 ส.ว.กทม.” หรือข้อความ “ทวงคืน ปตท. ให้เป็นของคนไทย ใช้น้ำมันเบนซินลิตรละ 20 บาท” เข้าข่ายเป็นการหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัคร รวมทั้งข้อความดังกล่าวมิได้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ส.ว. ตามที่กฎหมายให้กระทำได้ ซึ่ง กกต. จะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลฎีกาพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนางลีน่าของ กกต. ครั้งนี้ไม่มีผลต่อคุณสมบัติการเข้ารับการเสนอชื่อเป็น สปช. ของนางลีน่า เนื่องจากนางลีน่าเคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2547 ทำให้นางลีน่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครเป็น สปช. ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 29 ประกอบมาตรา 8 (4) ที่ระบุว่าต้อง ไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอยู่แล้ว
นอกจากนี้ กกต. ยังมีมติยกคำร้องคัดค้าน นายมารุต โรจนาปิยาวงศ์ ส.ว. นครนายก จากกรณีถูกกล่าวหาว่าให้หัวคะแนนจ่ายเงิน 100 บาท ให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ และให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งที่โดยมิชอบกระทำการเพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร และมีมติยกคำร้องคัดค้านนายสมชาย เหล่าสายเชื้อ ส.ว.อุบลราชธานี จากกรณีถูกกล่าวหาว่าหาเสียงโดยจัดให้มีการรื่นเริง เพื่อจูงใจด้วย