“พล.อ.สุรศักดิ์” แจงย้ายทหารประจำปีอยู่ที่ประชุม คกก. รับเก่ง กม.ไม่พอนั่ง ปธ.สนช. แต่ให้ทำก็ทำได้แต่ให้ผู้เชี่ยวชาญ กม.ดีกว่า ชี้ทหารที่ร่วม สนช.เป็นทหารชั้นดี
วันนี้ (28 ก.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 ว่าขณะนี้แต่ละหน่วยกำลังดำเนินการจัดทำ โดยหลังจากนี้จะนัดคุยกันโดยจะหารือกันของแต่ละเหล่าทัพจะเสนอมาที่กระทรวงกลาโหม ใครจะอยู่กองบัญชาการกองทัพไทยบ้าง ตำแหน่งไหนที่เหมาะสมกับบุคคล ซึ่งจะดูว่าชื่อใครเหมาะสมตรงไหนเป็นเรื่อของ ผบ.เหล่าทัพเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงจะมีคณะกรรมการ 2 ระดับ คือ 1. ในระดับหน่วยของแต่ละเหล่าทัพ 2. คณะกรรมการของสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม หลังจากนี้จะพูดคุยในรายละเอียดในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลซึ่งมี รมว.กลาโหมเป็นประธาน ตามกำหนดระยะเวลาเดิมคือปลายเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มี รมว.กลาโหม ตนในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมก็สามารถปฎิบัติหน้าที่ประธานในการประชุมได้เลย ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อมล้ำใดๆเพราะทหารทำโดยตำแหน่งหน้าที่
“ส่วน ผบ.เหล่าทัพคนใหม่จะให้ ผบ.เหล่าทัพคนปัจจุบันเสนอขึ้นมาหรือเสนอชื่อต่อคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารประจำปี 2557 หรือไม่นั้น คงต้องไปคุยกันในรายละเอียด แต่ตามกฎหมายสุดท้ายแล้วคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ซึ่งมี รมว.กลาโหมเป็นประธานจะเป็นผู้ตัดสิน ทั้งนี้การปรับย้ายนายทหารทุกอย่างทำตามปกติ ทุกหน่วยทำตามกำหนดการเดิมไม่มีปัญหา” พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว
ปลัดกระทรวงกลาโหมยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะนั่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่าตนไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย คนที่มาเป็นประธาน สนช.ควรมีความชำนาญด้านกฎหมายโดยเฉพาะ หากให้ตนทำก็ทำได้ แต่ควรที่จะให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทำจะดีกว่าเพราะเป็นกฎหมายที่สำคัญของประเทศ ใครก็ได้ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทหารเข้ามาเป็น สนช.จำนวนมากนั้น เรื่องนี้ต้องยอมรับเพราะบ้านเมืองขณะนี้ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ คนที่เข้ามาใน สนช.ได้รับการคัดเลือกอย่างดี กองทัพเองจะส่งใครเข้ามาใน สนช.ก็ต้องกลัวเสียชื่อ ดังนั้นคนที่ส่งเข้าไปก็ต้องทำการบ้านอย่างหนักและเป็นคนที่มีความรู้ หลายคนเรียนจบปริญญาโท และปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม รายชื่อที่ออกมาอยู่ที่สังคมเป็นผู้ตัดสินว่าจะมองมุมไหน ยืนยันว่านายทหารผู้ที่ได้คัดเลือกมีคุณสมบัติและประสบการณ์การทำงาน ที่เราคัดเป็นนายทหารชั้นดีของกองทัพ