xs
xsm
sm
md
lg

กกต.แจกแดง 5 ผู้บริหารท้องถิ่น ชงศาลอุทธรณ์ฟัน รับเหลืองานเพียบ 400 สำนวนร้องเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชูวิทย์ (กุ่ย) พิทักษ์พรพัภภล (ภาพจากแฟ้ม)
รองเลขาฯ กกต.เผยที่ประชุมมีมติเสนอศาลอุทธรณ์เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.โขงเจียม อุบลฯ พร้อมฟันอาญา “ชูวิทย์ กุ่ย” ทันทีหากศาลแจกแดง, นายกเล็กลำแก่น พังงา แจกเสื้อวิน, นายก อบต.คองปิด ศรีสะเกษ, ส.อบต.ท่าลาด อุบลฯ พร้อมผู้สมัคร และนายก อบต.โนน สุรินทร์ พร้อมยกคำร้องค้าน ส.ว.แม่ฮ่องสอน-ลำพูน เผยยังเหลือสำนวนให้พิจารณาอีกเพียบถึง 400 เรื่อง เร่งปรับปรุงกฎหมายด้วย



วันนี้ (24 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย แถลงว่าในการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 22-23 ก.ค.ที่ผ่านมา กกต.มีมติเสนอศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นรวม 5 แห่งประกอบด้วย 1 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายสิทธิชัย พันคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี กรณีอยู่ในเหตุการณ์ที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยไปช่วยหาเสียงแล้วมีการแจกจ่ายข้าวสาร เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกนายสิทธิชัย โดย กกต.เห็นว่าการกระทำของนายชูวิทย์เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายสิทธิชัยได้รับเลือกตั้งและถือว่านายสิทธิชัยรู้เห็นสนับสนุน ซึ่งนอกจาก กกต.มีมติเสนอเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายสิทธิชัยแล้ว ยังมีมติให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายชูวิทย์ด้วย ซึ่งหากศาลอุทธรณ์มีความเห็นสั่งเพิกถอนสิทธิฯ นายสิทธิชัย ตามที่ กกต.มีมติ กกต.ก็จะดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเอาผิดอาญาต่อนายชูวิทย์ทันที ซึ่งจะมีโทษตาม พ.ร.บว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 57 ประกอบมาตรา 118 คือจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี แต่หากศาลอุทธรณ์เห็นต่างจาก กกต. ที่ประชุม กกต.ก็จะมีการพิจารณากันอีกครั้งว่าจะมีการดำเนินคดีอาญากับนายชูวิทย์หรือไม่

2. เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญาต่อนายจิรวัฒน์ ครุฑสังวาลย์ นายกเทศมนตรีตำบลลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กรณีให้ทรัพย์สินและแจกเสื้อวินจักรยานยนต์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้เลือกตนเอง 3. เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญานายวุฒิชัย สมวงศ์ นายก อบต.คองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ กรณีให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญานายบุญชัย ทองคำนุช สมาชิ กอบต.ท่าลาด เขต 11 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และนายมนูญ จำปาสา ผู้สมัครสมาชิก อบต. กรณีสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินแก่วัดเพื่อแลกกับการให้นายมนูญ ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทำให้นายมนูญเปลี่ยนใจไม่ลงสมัคร โดย กกต.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการฮั้วกันในการแข่งขันเลือกตั้ง

5. เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญทนันท์ โต๊ะสิงห์ นายก อบต.โนน อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ กรณีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งในลักษณะสัญญาว่าจะให้ เช่นปราศรัยว่าจะให้เงินผู้สูงอายุมากกว่าที่รัฐบาลจัดให้ จะให้เบื้ยเลี้ยงและพาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และจะให้เงินค่าทำศพกับผู้เสียชีวิตในตำบลรายละ 5,000 บาทมากกว่าที่รัฐจัดให้ โดย กกต.เห็นว่าคำปราศรัยดังกล่าวไม่ใช่การหาเสียงเชิงนโยบาย

นายดุษฎียังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม กกต.ยังมีมติยกคำร้องคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ใน 2 คำร้อง 1 .กรณีร้องคัดค้านนายสุรพล สันติโชตินันท์ ส.ว.แม่ฮ่องสอน ซึ่งกล่าวหาว่าประธาน กกต. และกกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่เป็นกลางเนื่องจากจัดกิจกรรมโครงการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ในระหว่างที่มีการจัดการเลือกตั้ง ส.ว. โดย กกต.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของ กกต.จังหวัดอยู่แล้ว และ 2. ยกคำร้องคัดค้านนายตรี ด่านไพบูลย์ ส.ว.ลำพูน กรณีกล่าวหาว่านายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนจัดกิจกรรมประชุมประชาคมจังหวัด โดยขณะประชุมนายตรีได้เข้าร่วมงานดังกล่าว แต่ กกต.เห็นว่าการจัดประชุมเป็นภารกิจของอบจ.อยู่แล้วและระหว่างนายตรีร่วมงาน นายนิรันดร์ได้ห้ามนายตรีขี้นเวทีเพื่อแสดงตนเพราะเห็นว่าจะไม่เหมาะสม รวมถึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย จึงยกคำร้อง ขณะเดียวกันในประเด็นที่มีการร้องว่านายนิรันดร์ได้จัดโครงการพากลุ่มแม่บ้านเกษตรไปดูงานในจังหวัดเข้าข่ายเป็นเอื้อประโยชน์ให้นายตรีได้รับเลือกตั้งนั้น กกต.มองว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ประจำของ อบจ.อยู่แล้วและไม่พบว่าระหว่างดูงานมีการหาเสียง จึงให้ยกคำร้องในประเด็นนี้ด้วย

นายดุษฎีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้จะดูเหมือนว่า กกต.ไม่มีภารกิจหลัก เพราะไม่ต้องจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว แต่ กกต.ยังภารกิจอื่นอีกมากที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ขณะนี้ยังเหลือที่ต้องพิจารณาอีกกว่า 400 สำนวน รวมถึงเรื่องร้องคัดค้าน ส.ส.ที่มีอยู่ 39 สำนวน และในจำนวนนี้มี 8 สำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการไต่สวน โดยหนึ่งในนี้มีคำร้องคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคำร้องที่เกิดขึ้นภายหลังโดย กกต.เห็นว่าเป็นความปรากฏจึงให้มีการดำเนินการสอบสวน ซึ่งเป็นกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองหนึ่งไปออกรายการทีวีทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ซึ่งทุกสำนวนจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ กกต.ยังมีการพิจารณาในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างองค์ กร และการพิจารณาเสนอแก้ไขกฎหมาย การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อที่จะรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น