กกต.บริหารเลือกตั้งแจงอียูปมสถานการณ์ไทย คาดจัดเลือกตั้งได้ต.ค.นี้ ชี้ไม่อยากให้มองว่าเลือกตั้งแล้วเป็นปชต. แต่ควรเลือกตั้งเมื่อพร้อม และต้องมั่นใจว่าจะเกิดความสำเร็จ ได้คนดีบริหารบ้านเมือง พร้อมคาดสนช.ใช้เวลาร่างรธน.10 เดือนนับจากนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่10ก.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังนายบาลธาซาร์ เบนซ์ เจ้าหน้าที่นโยบายด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของสหภาพยุโรป (อียู) เข้าพบว่า ทางอียูได้มีการสอบถามกกต.ถึงกระบวนการเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทยว่ามีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งตนได้มีการชี้แจงว่าการเข้าสู่ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีธรรมนูญการปกครอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกมาได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ และหลังจากมีธรรมนูญการปกครองก็จะต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้ามาทำหน้าที่ออกกฎหมาย และสภาปฏิรูปประเทศ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศจากทุกหน่วยงานเสนอต่อกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญและคาดว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือนนับจากนี้ โดยหลังรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นก็จะเป็นทางเลือกว่า จะมีการทำประชามติหรือไม่ หากมีการจัดทำประชามติ ก็อาจจะทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปประมาณ 2 เดือน แต่ถ้าไม่มีการจัดทำประชามติก็จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ทันทีหลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว 60 วัน หรือเดือนต.ค.58 นั่นเอง
ทั้งนี้ทางผู้แทนจากอียูยังได้สอบถามถึงหลักประกันว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ตนก็ชี้แจงว่า กลไกสภาปฏิรูปก็จะมีตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ทั้ง 77 จังหวัด และมีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ จำนวน 11 สาขา ดังนั้นสภาปฏิรูปก็จะมีความเชื่อมต่อกับประชาชนและสามารถรับฟังความเห็น ข้อเสนอ ปัญหาและอุปสรรคจากประชาชนโดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยออกแบบรัฐธรรมนูญที่ดีได้ รวมถึงทางอียูยังได้มีการสอบถามถึงข้อเสนอ ใน6 โจทย์ของคณะทำงานด้านการปฏิรูปในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กกต.ได้นำเสนอไป ว่ามีแนวทางอย่างไรก็ชี้แจงว่า ข้อเสนอของกกต.เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งที่มาจากประสบการณ์และมุมมองของกกต.เท่านั้น ซึ่งคสช.ก็จะนำความเห็นและข้อเสนอของกกต.ไปประกอบการพิจารณาร่วมกับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ
“ ตนได้ให้มุมมองแก่อียูไปว่า ขอให้เข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ไม่อยากให้มองการเลือกตั้งเป็นแค่พิธีกรรม หรือเลือกตั้งแล้วถือว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งที่ดี ต้องได้คนดี มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม ไม่ใช่เราไม่สนใจประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้ง แต่เราจะสามารถเลือกตั้งได้เมื่อทุกอย่างมีความพร้อม หรือปรับปรุงกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ ที่แน่ใจว่าทำให้การเลือกตั้งเกิดความสำเร็จ ขอเวลาให้เราได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดอีกสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามระบบที่วางไว้ ประเทศชาติก็จะเกิดความสงบ” นายสมชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่10ก.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังนายบาลธาซาร์ เบนซ์ เจ้าหน้าที่นโยบายด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของสหภาพยุโรป (อียู) เข้าพบว่า ทางอียูได้มีการสอบถามกกต.ถึงกระบวนการเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทยว่ามีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งตนได้มีการชี้แจงว่าการเข้าสู่ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีธรรมนูญการปกครอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกมาได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ และหลังจากมีธรรมนูญการปกครองก็จะต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้ามาทำหน้าที่ออกกฎหมาย และสภาปฏิรูปประเทศ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศจากทุกหน่วยงานเสนอต่อกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญและคาดว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือนนับจากนี้ โดยหลังรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นก็จะเป็นทางเลือกว่า จะมีการทำประชามติหรือไม่ หากมีการจัดทำประชามติ ก็อาจจะทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปประมาณ 2 เดือน แต่ถ้าไม่มีการจัดทำประชามติก็จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ทันทีหลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว 60 วัน หรือเดือนต.ค.58 นั่นเอง
ทั้งนี้ทางผู้แทนจากอียูยังได้สอบถามถึงหลักประกันว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ตนก็ชี้แจงว่า กลไกสภาปฏิรูปก็จะมีตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ทั้ง 77 จังหวัด และมีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ จำนวน 11 สาขา ดังนั้นสภาปฏิรูปก็จะมีความเชื่อมต่อกับประชาชนและสามารถรับฟังความเห็น ข้อเสนอ ปัญหาและอุปสรรคจากประชาชนโดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยออกแบบรัฐธรรมนูญที่ดีได้ รวมถึงทางอียูยังได้มีการสอบถามถึงข้อเสนอ ใน6 โจทย์ของคณะทำงานด้านการปฏิรูปในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กกต.ได้นำเสนอไป ว่ามีแนวทางอย่างไรก็ชี้แจงว่า ข้อเสนอของกกต.เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งที่มาจากประสบการณ์และมุมมองของกกต.เท่านั้น ซึ่งคสช.ก็จะนำความเห็นและข้อเสนอของกกต.ไปประกอบการพิจารณาร่วมกับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ
“ ตนได้ให้มุมมองแก่อียูไปว่า ขอให้เข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ไม่อยากให้มองการเลือกตั้งเป็นแค่พิธีกรรม หรือเลือกตั้งแล้วถือว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งที่ดี ต้องได้คนดี มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม ไม่ใช่เราไม่สนใจประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้ง แต่เราจะสามารถเลือกตั้งได้เมื่อทุกอย่างมีความพร้อม หรือปรับปรุงกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ ที่แน่ใจว่าทำให้การเลือกตั้งเกิดความสำเร็จ ขอเวลาให้เราได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดอีกสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามระบบที่วางไว้ ประเทศชาติก็จะเกิดความสงบ” นายสมชัยกล่าว