ศาลปกครองสูงสุดปัดรับฟ้อง “ปู” เยียวยาเหยื่อการเมืองไม่เป็นธรรม เหตุทำตาม คอป.

ศาลปกครองสูงสุดไม่รับฟ้อง “ยิ่งลักษณ์” ที่ ปชป.ยื่นฟ้องเหตุอนุมัติเยียวยาผู้รับความเสียหายเหตุรุนแรงการเมือง อ้างผิด กม.เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรม ศาลชี้ฟังไม่ขึ้น ระบุไม่ได้ดำเนินตาม กม. แต่ทำตามนโยบายสร้างปรองดองของ คอป. ศาลไม่มีอำนาจรับฟ้อง

วันนี้ (23 มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ไม่รับคำฟ้องที่นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับพวกรวม 3 ราย ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับคณะรัฐมนตรีรวม 2 ราย กรณีนายกรัฐมนตรีและ ครม. มีมติอนุมัติให้มีการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 ถึงเดือน พ.ค. 2553

โดยนายสาธิตเห็นว่าเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมติดังกล่าวมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เป็นการเยียวยากลุ่มบุคคลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ และบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางการเมืองในหลายกรณี ที่มิได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดแต่ไม่ได้รับการเยียวยา อีกทั้งมติดังกล่าวยังมิได้ครอบคลุมถึงกรณีผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงในอดีตที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม จึงถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ

ส่วนที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งไม่รับคำฟ้องเนื่องจากเห็นว่า คำอุทธรณ์ของนายสาธิตฟังไม่ขึ้น เนื่องจากการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง มิใช่เป็นการดำเนินการตามกฎหมายใด แต่เป็นการดำเนินการทางนโยบายสร้างความปรองดองของคนในชาติ ด้วยการเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 เป็นต้นมา ตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

การกระทำดังกล่าวมิใช่การกระทำทางปกครอง หรือดำเนินกิการในทางปกครองอันจะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง และการที่นายกรัฐมนตรี และพวก จะดำเนินมาตรการเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายในเหตุการณ์ใดหรือไม่ เป็นกิจการในทางรัฐประศาสโนบาย หรือเป็นการกระทำในทางการเมืองที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไว้พิจารณา และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น