อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าคณะ คสช. ร้องรื้อฟื้นคดีอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” โดยใช้หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ สตช. หลัง “คำรณวิทย์” อ้างว่าเพราะชิงทรัพย์ แต่สังคมไม่เชื่อ ยืนยันตายเพราะการเมือง พ่วงร้องสอบ ผอ.ช่อง 11 - อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ หลังเด้ง ผอ.ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว เหตุเสนอข่าวร้องให้สอบวินัยประดับยศ “ทักษิณ”
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานอนุกรรมาธิการคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีการฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจที่ถูกฆาตกรรมในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดย พล.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ขณะนั้นสรุปคดีว่า เป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ของคนขับรถนายเอกยุทธ ซึ่งสวนทางกับความเชื่อของสังคม เพราะตนได้เป็นประธานสอบสวน ซึ่งมีพยานยืนยันว่าสาเหตุการตายมาจากความขัดแย้งทางการเมือง และคดีนี้กระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและการบังคับใช้กฎหมายที่เที่ยงตรง จึงขอให้ คสช. มีคำสั่งรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาใหม่ โดยใหัหน่วยงานราชการอื่นที่ไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงและผู้ว่าจ้างตามกฎหมาย
นายวัชระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้ทำหนังสือถึง คสช. เพื่อขอให้ดำเนินการทางวินัยและพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของ นายจำลอง สิงห์โตงาม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และ นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เนื่องจาก นายจำลอง มีคำสั่งให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผอ.ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ยุติปฏิบัติหน้าที่ หลังได้นำเสนอข่าวที่ตนยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รรท.ผบ.ตร. ให้สอบสวนทางวินัยต่ออดีต ผบช.น. กรณีประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประดับยศให้ โดยการเสนอข่าวดังกล่าวขัดต่อประกาศ คสช. ห้ามมิให้สื่อมวลชนเสนอข่าวบิดเบือน สร้างความสับสนให้สังคม ทั้งที่เป็นการรายงานข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม และการใช้อำนาจของนายจำลองเป็นการขัดคำสั่งและลุแก่อำนาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของสื่อและประชาชน ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อ คสช. ตามมา จึงขอให้พิจารณาความเหมาะสมในการทำหน้าที่ของ ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้กำกับรับผิดชอบ