ปฏิบัติหน้าที่แทนปลัดสำนักนายกฯ ประชุมปฏิรูประบบราชการ ชู 3 ข้อ ให้ ก.พ.ร.-ก.พ.เป็นแบบอย่าง, ปฏิบัติตนเป็น ขรก.แผ่นดินและในหลวงแบบชัดเจน ไม่ใช่แค่ถวายสัตย์ และปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาแต่พองาม เผยศูนย์ปรองดองกำลังทำงานเต็มที่ สนอง “ประยุทธ์” ยังไม่อยากพูดหากนักการเมืองรับช่วงต่อ เชื่อข้าราชการทำไม่ใช่ว่ากลัวทหาร หวังคนไทยให้โอกาสคนผิด
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประการประชุมปฏิรูประบบราชการ และร่วมรับฟังถึงแนวทางของระบบข้าราชการ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อครั้งตอนที่ตนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงาน ก.พ.ร.ก็เป็นติวเตอร์ให้ มีการจัดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพราะมองว่าจากหนักก็จะกลายเป็นเบา หากไม่ทำเบาลงก็จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการปฏิบัติเพื่อการปฏิรูประบบราชการ สำหรับตนมี 3 ข้อ คือ 1. สำนักงาน ก.พ.ร.จะต้องเป็นแบบอย่างให้เราในการปฏิบัติงาน 2. ความหมายของการปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการของแผ่นดิน ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องนี้อยากให้เกิดความชัดเจน ไม่ใช่พูดกันอย่างเดียว ที่พอถึงวันก็ไปถวายสัตย์ปฏิญาณซึ่งเป็นการทำแบบพิธีการ แต่เมื่อนำไปปฏิบัติกลายเป็นความบกพร่อง ฉะนั้นเมื่อถวายสัตย์ต้องปฏิบัติให้ได้ตามนั้น และ 3. การปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชน ทั้งนี้การปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา จะทำอย่างไรให้ดูพอดี พองาม ไม่ใช่ประจบประแจง
ต่อมา ม.ล.ปนัดดาให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความปรองดองว่า ขณะนี้ศูนย์ปรองดองอำเภอและจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดกำลังทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อสนองแนวทางของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งเรื่องความสามัคคี ข้าราชการต้องเป็นแบบอย่าง ความโปร่งใส ทุกภาคส่วนต้องยึดตามแนวทางนี้โดยเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นการปฏิรูปในทุกภาคส่วนก็จะเกิดยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงจะเกิดปัญหาเหมือนไฟไหม้ฟางหรือไม่ว่าแรกๆ อาจจะให้ความร่วมมือดี แต่พอมีนักการเมืองเข้ามาปัญหาเหล่านี้อาจกลับมาใหม่อีก ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ยังไม่อยากพูดถึงขั้นตอนของนักการเมือง เพราะสิ่งสำคัญขณะนี้คือข้าราชการทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่นต้องเป็นหลัก ทำงานร่วมกันอย่างมุ่งมั่น ไม่เลือกปฏิบัติ หลายจังหวัดที่มีความขัดแย้งกันมากและเป็นห่วงกัน ปัจจุบันก็ดีเกินคาด เมื่อถามว่าหวั่นกันว่าตอนนี้อาจเป็นเรื่องของความกลัวทหารก็ยอมทำตาม แต่เมื่อไหร่ที่ทหารหรือ คสช.ไม่อยู่แล้วอาจเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของความกลัว อาจเป็นเรื่องของความต้องการที่อยากเห็นบ้านเมืองมีความร่มเย็นเป็นสุข
“ความกลัวไม่จีรังยั่งยืน ความเกรงกลัวต่อเรื่องหนึ่ง เรื่องใดไม่จีรังยั่งยืน คุณความดีเท่านั้น ประเทศชาติเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบสำหรับทุกคน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เคยทำไม่ดีซึ่งมีเพียงไม่กี่คน ตอนนี้อยากให้กลับมาคิดใหม่ ทำตัวใหม่ ซึ่งข้าราชการที่หลงผิด ทำตัวไม่ดี ก็ได้มอบให้หัวหน้าส่วนราชการช่วยกำชับและดูแล ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยให้คิด ให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องช่วยกันแนะนำ ไม่ใช่เอาแต่ลงโทษหรือไล่ออกกัน คนไทยด้วยกันก็ต้องให้โอกาสกัน กลับมารักใครปรองดองกัน” ม.ล.ปนัดดากล่าว
