หัวหน้าคณะ คสช. สั่งรื้อสิทธิประโยชน์รัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง เน้นขนาดองค์กร ปัดบีบ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ไขก๊อกบอร์ด ปตท. ชี้เจ้าตัวตัดสินใจเอง
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายพลเรือน แถลงภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะ คสช. เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน และรับทราบผลการดำเนินงานตามนโยบาย คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ว่า การปรับปรุงประสิทธิภาพกรรมการรัฐวิสาหกิจ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ทำงานคู่ขนานฝ่ายเศรษฐกิจ สคร. ทำการประเมินสถานการณ์และวิเคราะห์ประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง รวบรวมผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ส่วนเกินของกรรมการบอร์ด อาทิ โบนัส เบี้ยประชุม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จัดทำเป็นข้อเสนอมายังหัวหน้า คสช. เพื่อพิจารณาปรับลดตามเหมาะสมของหลักเกณฑ์การใช้เงิน เช่น หากเป็นกรรมการบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ คำนึงถึงขนาดรัฐวิสาหกิจ และบริษัทมหาชน เพราะมีขนาดใหญ่หรือเล็กไม่เท่ากัน
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. ฝ่ายพลเรือน กล่าวว่า เป็นดำริของหัวหน้า คสช. ที่ต้องการให้มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เป็นธรรม โปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิประโยชน์ของบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ส่วนการที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากประธานบอร์ด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นเรื่องที่นายปานปรีย์ตัดสินใจเอง คสช. ไม่ได้บีบให้ลาออกอย่างที่เป็นข่าวว่า คสช. ต้องการปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่มาจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และที่ประชุมวันเดียวกันก็ไม่ได้มีการพิจารณาตัวบุคคลที่จะมาเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหัวหน้า คสช. ระบุที่ประชุมเรื่องของบอร์ดให้เป็นเรื่องที่แต่รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะไปพิจารณากันเอง