คสช.ท้วงติง ผอ.ฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ใช้ทัศนคติส่วนตัว วิจารณ์การจับ “สมบัติ” ระบุมองผลด้านเดียวตามธงที่อยู่ในใจ ไม่มองบริบทที่เกิดขึ้นจริงของสังคมไทย ยันการพิจารณาคดีของศาลทหารไทย เป็นไปตามมาตรฐานของศาลทั่วไป
กรณี นายแบรด อดัมส์ ผอ.องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า การจับกุมตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด เป็นแกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง เครือข่ายกล่มคนเสื้อแดง เป็นการปฏิเสธที่จะตระหนักถึงสิทธิพื้นฐานในการแสดงออกและชุมนุม หลังจากนี้จะได้เห็นระบบยุติธรรมจอมปลอมในการใช้ศาลทหารนั้น
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ปรารถนาให้การแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลดังกล่าว ที่อาจพิจารณาโดยใช้ทัศนคติส่วนตัว หรือมองผลด้านเดียว ตามธงที่อยู่ในใจ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรเอกชน และสร้างความสับสนให้สังคม ที่เห็นชัดคือเป็นการให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิบางอย่างกับบางบุคคลเท่านั้น ไม่ได้มองบริบทที่เกิดขึ้นจริงของสังคมในขณะนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ มีความเข้าใจในเหตุผลความจำเป็นที่ คสช. ต้องเข้ามาบริหารราชการและดูแลสถานการณ์ของประเทศในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อปลดล็อกปัญหาต่างๆ
โดยคนอื่นที่เห็นตรงกับ คสช. นั้น ส่วนใหญ่ต้องการความสงบเรียบร้อย อีกทั้งเนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ไม่อยู่ในสภาวะปกติ การแสดงออกจึงจำเป็นต้องมีข้อจำกัดให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือเน้นเชิงสร้างสรรค์และไม่ขัดต่อแนวทางการรักษาความสงบ เพราะที่ผ่านมาการให้ความเห็นในบางลักษณะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
ยืนยันว่า คสช. บริหารสถานการณ์ต่างๆ ตามความจำเป็น และเป็นที่ประจักษ์ว่าประชาชนที่ไม่มีเจตนากระทำผิดกฏหมายจะไม่ได้รับความเดือดร้อน จากมาตราการที่ คสช. กำหนด นอกจากนี้ อาจเป็นการไม่เหมาะสมที่มีการกล่าวพาดพึงถึงกระบวนการยุติธรรมของศาลทหาร โดยการใช้ความรู้สึก
ขอเรียนยืนยันว่าการพิจารณาคดีความของศาลทหารเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมของไทย ไม่แตกต่างจากมาตรฐานของศาลทั่วไป อาจมีเพียงเรื่องของระยะเวลาที่กระทำโดยรวดเร็วกว่า ทั้งนี้ การพิจารณาคดีต่างๆ ในช่วงมีประกาศกฎอัยการศึกนั้น กฎหมายกำหนดให้พิจารณาคดีด้วยศาลชั้นเดียวเท่านั้น
