หัวหน้าคณะ คสช. ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน รวมทั้งองค์กรอิสระ เดินหน้าแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เน้นชอบธรรม-โปร่งใส คสช. พร้อมให้การสนับสนุน เชื่อตั้งกรรมการตรวจสอบภายในเกิดประโยชน์ประชาชนโดยรวม
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนินนอก เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมใน 3 ส่วนงาน คือ กลุ่มงานฝ่ายกิจการพิเศษ กลุ่มงานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และส่วนงานขึ้นตรงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเข้าร่วมประชุมครบทุกภาคส่วน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอให้ทุกหน่วยงาน รวมทั้งองค์กรอิสระเดินหน้าแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ภายใต้ความชอบธรรมและโปร่งใส ซึ่ง คสช. จะให้การสนับสนุน โดยยึดมั่นตามหลักการที่ไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายมากไปกว่านี้
ทั้งนี้ หัวหน้า คสช. ระบุในที่ประชุมว่า ต้องการเห็นทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างชาติ สร้างวินัยให้สมบูรณ์ทัดเทียมกับต่างประเทศ ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ โดยกำชับให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มงานเร่งดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทาง คสช. ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายใน การทำงานแต่ละส่วนงานนั้น เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม พร้อมย้ำทุกส่วนราชการใช้ความระมัดระวังในการดำเนินงาน และศึกษาด้วยว่าจะก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวหรือไม่
ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายได้รายงานให้ทราบถึงการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องและผลกระทบที่เกิดจากข้อกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของส่วนราชการ และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผู้ประกอบการในการติดต่อและทำธุรกรรมกับส่วนราชการต่างๆ ซึ่ง หน.คสช. ได้ให้ความมั่นใจว่างานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมสามารถดำเนินการต่อไปตามปกติ และเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมทุกประการ และให้ทุกหน่วยงานด้านยุติธรรมใช้กฎหมายเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ลดความขัดแย้ง ให้ดำรงการทำหน้าที่ตามกระบวนการยุติธรรม พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือข้อจำกัดของกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ทั้งด้านการค้า การลงทุนต่างประเทศ การติดต่อราชการ เป็นต้น
ส่วนฝ่ายกิจการพิเศษ หน.คสช. ให้ความสำคัญกับโครงการและแผนงานที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่องค์ความรู้ของศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ โดยการมีส่วนร่วมของภาคราชการ ประชาชน และปราชญ์ชาวบ้าน ร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อน เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน รวมทั้งให้พิจารณาถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม ถูกต้อง และให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจการบริหารจัดการในเรื่องใดๆ ของภาครัฐ
สำหรับส่วนขึ้นตรง หน.คสช. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านความมั่นคง หน.คสช. ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะต้องขับเคลื่อนทั้งงานพัฒนาและงานสร้างความมั่นคงในพื้นที่ไปพร้อมกัน โดยมีกลไกใน 3 ระดับ คือ ระดับนโยบาย ระดับยุทธศาสตร์และการขับเคลื่อน และระดับปฏิบัติ ที่จะต้องทำงานสอดประสานกัน
ในตอนท้าย หัวหน้า คสช. ได้อธิบายเจตนารมณ์ของการตั้งศูนย์ปรองดองและสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ที่ขณะนี้มุ่งหวังให้ประชาชนได้มีโอกาสพบปะและทำกิจกรรมสร้างความสุขร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ เท่านั้น เพื่อเตรียมความพร้อมของสังคมไปสู่การปฏิรูปต่อไป