ป.ป.ช.ชี้รัฐวิสาหกิจหากมีธรรมาภิบาลจะสามารถป้องกันการทุจริตได้ และส่งผลดีต่อชาติ หวังนำยุทธศาสตร์ชาติไปปฏิบัติแล้วตัวเลขค่าเสียหายลด ระบุบอร์ดบางแห่งเข้าข่ายขัดกันทางผลประโยชน์ แนะแต่งตั้งตามหลักที่เสนอ ต้องมีคุณวุฒิทำประโยชน์ โยน สคร.ชง คสช.
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 09.00 น. นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงโครงการสัมมนาระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจว่า ป.ป.ช.ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 2 ร่วมกันตั้งแต่ปี 2557-2560 เพราะถือว่ารัฐวิสาหกิจเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากภายในปีหนึ่งมีการลงทุนสูงกว่างบประมาณของหน่วยราชการ ซึ่งงบการลงทุนของภาคราชการนั้นปีละ 5 แสนล้านบาท หากดำเนินการได้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลจะสามารถป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อประเทศชาติในภาพรวม ป.ป.ช.หวังว่าเมื่อรัฐสาหกิจนำยุทธศาสตร์ชาติฯ ไปปฏิบัติแล้วตัวเลขค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการคอร์รัปชันของภาครัฐวิสาหกิจนั้นจะลดลง
นายภักดีเปิดเผยด้วยว่า ได้มีการแนะนำแนวทางที่รัฐวิสาหกิจควรไปดำเนินการในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติฯ โดยควรจะเริ่มจากการแต่งตั้งบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ผ่านมาทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.เคยมีข้อเสนอแนะมาตรการไปยังฝ่ายบริหารของรัฐวิสาหกิจมาแล้ว เพราะที่ผ่านมาการแต่งตั้งกรรมการของบางหน่วยงาน อาจเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ เช่น การเอาบุคคลในฝ่ายที่กำกับดูแลงานนั้นๆ เข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเอง หรือการตั้งบุคคลจากองค์กรที่เป็นผู้ฟ้องคดีของรัฐเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจย่อมเกิดปัญหาขึ้นได้ เมื่อรัฐวิสาหกิจนั้นถูกฟ้องร้องเสียเอง
“ขณะนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง จึงคาดว่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่เข้ามาใหม่คงได้รับการแต่งตั้งตามหลักการที่ ป.ป.ช.เคยเสนอแนะไป โดยผู้ที่จะมาเป็นกรรมการจะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สามารถทำประโยชน์ให้กับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ต้องพยายามคัดเลือกคนที่เหมาะสมจริงๆ เพื่อป้องกันการเข้าไปทุจริตเอื้อประโยชน์ของพวกตนเอง” นายภักดีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.จะเสนอแนะแนวทางหรือข้อแนะนำในการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ดูแลด้านเศรษฐกิจ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นด้วยหรือไม่ นายภักดีกล่าวว่า คงไม่ต้องนำเสนอต่อ คสช.อีก เพราะข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ในครั้งนั้นเคยเป็นมาตรการที่ผ่านเป็นมติ ครม.แล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่แล้ว ดังนั้นคิดว่า สคร.จะนำเสนอต่อคณะผู้มีอำนาจด้วยเพื่อการพิจารณาปรับปรุงต่อไป
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 09.00 น. นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงโครงการสัมมนาระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจว่า ป.ป.ช.ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 2 ร่วมกันตั้งแต่ปี 2557-2560 เพราะถือว่ารัฐวิสาหกิจเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากภายในปีหนึ่งมีการลงทุนสูงกว่างบประมาณของหน่วยราชการ ซึ่งงบการลงทุนของภาคราชการนั้นปีละ 5 แสนล้านบาท หากดำเนินการได้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลจะสามารถป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อประเทศชาติในภาพรวม ป.ป.ช.หวังว่าเมื่อรัฐสาหกิจนำยุทธศาสตร์ชาติฯ ไปปฏิบัติแล้วตัวเลขค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการคอร์รัปชันของภาครัฐวิสาหกิจนั้นจะลดลง
นายภักดีเปิดเผยด้วยว่า ได้มีการแนะนำแนวทางที่รัฐวิสาหกิจควรไปดำเนินการในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติฯ โดยควรจะเริ่มจากการแต่งตั้งบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ผ่านมาทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.เคยมีข้อเสนอแนะมาตรการไปยังฝ่ายบริหารของรัฐวิสาหกิจมาแล้ว เพราะที่ผ่านมาการแต่งตั้งกรรมการของบางหน่วยงาน อาจเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ เช่น การเอาบุคคลในฝ่ายที่กำกับดูแลงานนั้นๆ เข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเอง หรือการตั้งบุคคลจากองค์กรที่เป็นผู้ฟ้องคดีของรัฐเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจย่อมเกิดปัญหาขึ้นได้ เมื่อรัฐวิสาหกิจนั้นถูกฟ้องร้องเสียเอง
“ขณะนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง จึงคาดว่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่เข้ามาใหม่คงได้รับการแต่งตั้งตามหลักการที่ ป.ป.ช.เคยเสนอแนะไป โดยผู้ที่จะมาเป็นกรรมการจะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สามารถทำประโยชน์ให้กับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ต้องพยายามคัดเลือกคนที่เหมาะสมจริงๆ เพื่อป้องกันการเข้าไปทุจริตเอื้อประโยชน์ของพวกตนเอง” นายภักดีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.จะเสนอแนะแนวทางหรือข้อแนะนำในการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ดูแลด้านเศรษฐกิจ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นด้วยหรือไม่ นายภักดีกล่าวว่า คงไม่ต้องนำเสนอต่อ คสช.อีก เพราะข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ในครั้งนั้นเคยเป็นมาตรการที่ผ่านเป็นมติ ครม.แล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่แล้ว ดังนั้นคิดว่า สคร.จะนำเสนอต่อคณะผู้มีอำนาจด้วยเพื่อการพิจารณาปรับปรุงต่อไป