คสช.สั่งห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน “บก.ลายจุด-จ่าประสิทธิ์” หลังไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง พร้อมให้สถาบันการเงินรายงานข้อมูลการทำธุรกรรมย้อนหลังของบุคคลทั้งสองตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-27 พ.ค. ผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 22.50 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 26/2557 เรื่องห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่งที่ 3/2557 ลงวันที่ 23 พ.ค. 2557 และคำสั่งที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค. เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ปรากฏว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางรายฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือ หรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกระทำการหรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกกคำสั่งดังนี้
ข้อ 1. ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมสถาบันการเงิน ธนาคารที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
1. นายสมบัติ บุญงามอนงค์
2. จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ
ข้อ 2. ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1. แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-27 พ.ค. 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความงสบแห่งชาติ ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
ข้อ 3. การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1. ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ 1. ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความมไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ข้อ 4. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ