“สุเทพ” ประกาศย้ายกลับราชดำเนิน ช่วงบ่ายของวันที่ 12 พ.ค. วอน “ประธานวุฒิสภา-ผู้นำตุลาการ-กกต.” ช่วยหาทางออกประเทศ ลั่นหากการหานายกฯ คนใหม่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน จะลงมือจัดการกันเอง พร้อมเปิดโอกาสรักษาการรัฐมนตรีที่เหลืออยู่เข้าคุยได้ แนะยอมลาออกเองดีกว่าโดนประชาชนขับไล่
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวปราศรัยที่สวนลุมพินี ว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครอง และประธาน กกต. ว่าตอนนี้ประเทศไทยไม่มีนายกฯ แล้วตามตัวบทกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน คนสั่งราชการแผ่นดินได้คือ นายกฯ เท่านั้น รองนายกฯ ไม่มีศักดิ์สั่งราชการแผ่นดินในฐานะรักษาการแทนนายกฯ ได้ ฉะนั้น นายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ นั้น อยู่ไปวันๆ ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะทำได้ ตนก็เลยกราบเรียนผู้ใหญ่เหล่านั้นว่า ขอให้ท่านเหล่านั้นกรุณาให้คำปรึกษาหรือร่วมปรึกษา หรือช่วยกันคิดเพื่อที่จะให้การสนับนุนประธานวุฒิสภาดำเนินการให้มีนายกฯ คนใหม่ และทำการปฏิรูปประเทศไทย แล้วตอน 4 โมงเย็นตนก็ได้แถลงการณ์เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าวันนี้เหลือองค์กรนิติบัญญัติเพียงองค์กรเดียวคือ วุฒิภา เลยยื่นหนังสือให้ประธานวุฒิสภาและวุฒิสภาดำเนินการแก้ไขปัญหา และผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะประธานวุฒิสภาได้เรียกประชุมวุฒิสภานัดพิเศษจันทร์นี้ (12 พ.ค.)
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ประชาชนออกมาสู้คราวนี้ต้องยิ่งใหญ่ไพศาลจริงๆ คนถึงเกรงใจ ถ้าหากผู้หลักผู้ใหญ่ที่กราบเรียนไปแล้วไม่ทำ หรือทำไม่ได้ มวลมหาประชาชนก็ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องจัดการกันเอง จึงขอถือโอกาสนี้กราบเรียนพี่น้องโปรดออกมาร่วมกันกำหนดอนาคตของประเทศไทย นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ถ้าออกกันมาหมด มากมายมหาศาลจริงๆ และต่อสู้เด็ดเดี่ยว เอาจริงเอาจัง รับรองสำเร็จแน่นอน
นอกจากนี้ เมื่อวานตนได้ทำหนังสือถึงนายนิวัฒน์ธํารง ว่าถึงเวลามาคุยกับตนได้แล้ว อย่าดื้อดึงต่อไปเลย มาหาตนได้ที่ทำเนียบฯ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ที่ตึกสันติไมตรี ทั้งในและนอกเวลาราชการ ตนจะรักษาความปลอดภัยให้รักษาการรองนายกฯ ได้ ไม่มีอันตรายใดๆ แล้วตนก็จะบอกให้ลาออกไปเถอะ อย่าอยู่เลย ลาออกเองเท่กว่าเยอะ ดีกว่าให้พวกเราไล่ออก และบรรดาคนที่รักษาการรัฐมนตรีอยู่ มาคุยกับตนได้ ตอนนี้พร้อมจะคุยแล้ว เมื่อก่อนร่ำร้องกันหนักหนา ให้รีบมาคืนนี้ มะรืนนี้ มะเรื่องนี้ หลังจากนั้นมาช้าไม่ให้พบแล้ว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เราตัดสินใจว่าจะยุบเวทีลุมพินี แล้วจะไปทำศึกชิงเมืองที่ราชดำเนิน พรุ่งนี้เป็นการปราศรัยที่ลุมพินีเป็นคืนสุดท้าย แล้วจะเคลื่อนย้ายจากลุมพินีไปทำเนียบฯ ยึดถนนราชดำเนินหมดทั้งสาย บรรดาแกนนำทั้งหลายเคยประกาศแล้วเมื่อวันที่เรายุบเวทีราชดำเนินเพื่อมาปิดกรุงเทพฯ เราได้สัญญากันว่าจะกลับไปฉลองชัยที่ราชดำเนิน บัดนี้ได้เวลาที่ต้องกลับไปฉลองชัยที่ราชดำเนินแล้ว
ฉะนั้น พรุ่งนี้ (11 พ.ค.) เตรียมตัวให้เรียบร้อยมอบคืนพื้นที่ให้ กทม. มะรืนนี้ (12 พ.ค.) กินข้าวเที่ยงเสร็จ ตนจะเดินนำขบวนมวลมหาประชาชนอพยพไปทำเนียบรัฐบาล เราจะตั้งหลักที่นั่น ระดมพลให้เต็มที่ ถ้ากระบวนการเลือกนายกฯ โดยวุฒิภาเป็นไปโดยราบรื่น ได้คนดี คนเก่ง ตรงใจประชาชน ได้นายกฯ คนใหม่ ตั้งรัฐบาลใหม่ รับมอบภารกิจในการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์มวลมหาประชาชน เราก็จุดพลุฉลองชัยแล้วกลับบ้าน แต่ถ้ากระบวนการที่ได้นายกฯ คนใหม่ ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ประชาชนก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจัดการด้วยมือประชาชนให้มีนายกฯ คนใหม่ขึ้นมาให้ได้ จึงจะจบภารกิจของเรา
นายสุเทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้ามวลมหาประชาชนไม่ออกมามากมายมหาศาลจริงๆ จะไม่มีใครฟังเรา เพราะเราคนธรรมดาสามัญ ต้องมากันหลายๆ ล้านคน อย่าประมาท ที่สู้มา 6 เดือนเศษ จะไม่มีความหมายเลย
