การประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ผบ.ทบ.เร่งพัฒนาโครงสร้างการจัดหน่วย ตั้งศูนย์การเรียนรู้ในหน่วยทหารเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เตรียมพร้อมตั้งทัพภาคน้อยที่ 4 ดูแลพื้นที่ใต้ สั่งทุกหน่วยติดตามสถานการณ์บ้านเมือง เชื่อมั่นผู้บังคับบัญชา เล็งใช้เครื่องบินพาณิชย์รับส่งกำลังพลพื้นที่ภาคใต้ เดินหน้าปลูกป่าอาเซียนตามแนวชายแดน สร้างเครือข่ายแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบัน พร้อมขอบคุณทุกหน่วยตรวจเลือกทหารเรียบร้อย สั่ง ผบ.หน่วยระบุดูแลทหารใหม่เต็มที่
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า ผบ.ทบ.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างของกองทัพบกที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยกำชับให้การดำเนินการใดๆ จะต้องมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน และมีความเชื่อมโยงกันในทุกเหล่า ทุกสายวิทยาการ ภายใต้การพึงพอใจของกำลังพลที่จะต้องเป็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะนี้ในระดับกองทัพภาคกำลังมีการพัฒนาโครงสร้างดังกล่าว เช่น มีการปรับกำลังหน่วยรบหลัก และกำลังที่จะใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ให้เกิดความชัดเจนในการจัดแบ่งกำลังเป็นหน่วย รวมถึงยุทโธปกรณ์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังให้ทุกหน่วยเดินหน้าการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในหน่วยทหาร และการขยายผลศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่มีอยู่แล้วในชุมชนและหมู่บ้าน โดยให้หน่วยทหารประสานองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการปฏิบัติที่ครบวงจร เน้นองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ดิน น้ำ และเกษตรทฤษฎีใหม่
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการพูดถึงความคืบหน้าการจัดตั้งหน่วยใหม่คือ กองทัพน้อยที่ 4 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ ต.ค.นี้ โดยให้ทยอยเข้ารับผิดชอบในงานของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ขอประสานให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เร่งรัดการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการป่าอาเซียนที่ปัจจุบันกองกำลังป้องกันชายแดนทั้ง 7 กองกำลังของกองทัพบกได้ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปลูกป่าไปแล้วจำนวน 102 ไร่ 2 งาน จากแผนการดำเนินงาน 364 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 21.07 ของแผนงานนั้น ผบ.ทบ.ได้ย้ำเจตนารมณ์ที่ต้องการให้เกิดป่าไม้ในพื้นที่ชายแดนในลักษณะยั่งยืนและสวยงาม เป็นป่าเชิงสัญลักษณ์ของแต่ละประเทศ และเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน หวังให้ทั้งสองประเทศรู้คุณค่าของผืนป่า และร่วมกันรักษาให้เป็นสมบัติของคนในชาติต่อไป ทั้งนี้ ได้กำชับให้กองกำลังชายแดนนำแนวทางพระราชทานเรื่องป่าไม้ไปถ่ายทอดให้ประเทศเพื่อนบ้านได้รับทราบด้วย สำหรับพื้นที่ที่ได้มีการปลูกป่าอาเซียนไปบ้างแล้ว เช่น จุดผ่อนปรนทางการค้า บ.หนองปรือ-มาลัย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, จุดผ่อนปรน บ.หม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, พื้นที่ช่องสะงำ ต.ไพร่พัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
อีกด้านหนึ่งกองทัพบกเตรียมดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างเครือข่ายแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และการกระตุ้นจิตสำนึกความรัก ความสามัคคีของคนในชาติอีก 2 โครงการในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ได้แก่ โครงการปลูกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิดต้นไม้แห่งแผ่นดิน โดยมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ตามสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ การผลิตและประกวดภาพยนตร์สั้น การจัดนิทรรศการรู้คุณแผ่นดินป้องกันการละเมิดสถาบันฯ ทางโซเซียลเน็ตเวิร์ก
รวมทั้งการเผยแพร่บทเพลงธงชาติตามสื่อ โครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 4 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพบกกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยใช้บทเพลงเป็นสื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการประกวดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เป็นการคัดเลือกนักร้อง นักดนตรีที่มีความสามารถสูงสุดในแต่ละภูมิภาค เพื่อเป็นตัวแทนภูมิภาคละ 1 วง เข้าประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในพื้นที่ส่วนกลางในช่วงเดือน ก.ค.นี้ โดยจะมีการจัดนิทรรศการต้นไม้แห่งความจงรักภักดีระหว่างการประกวดในระดับภูมิภาค เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งการนำเยาวชนที่เข้าร่วมประกวดเดินทางไปทัศนศึกษา โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของกองทัพบกในพื้นที่ต่างๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้จะมีพิธีเปิดโครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 4 ในวันที่ 21 พ.ค.ที่ บก.ทบ.
ขณะที่ในที่ประชุมได้สรุปผลการตรวจเลือกทหารกองประจำการประจำปี 2557 โดย ผบ.ทบ. ได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมกับสั่งการให้นำข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการตรวจเลือก รวมถึงข้อร้องเรียนจากทุกฝ่ายไปพิจารณาหาแนวทางปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนร่วมกันพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการปรับปรุงกระบวนการตรวจเลือก ทั้งการลดช่วงเวลาในการตรวจเลือกให้เร็วขึ้น การขอผ่อนผันล่วงหน้า การตรวจโรคของผู้ที่มีความประสงค์จะสมัครเป็นทหารไว้ล่วงหน้า เป็นต้น โดยการปรับเปลี่ยนขั้นตอนต่างๆ จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และไม่เปิดช่องให้มีการทุจริต นอกจากนี้ให้ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลการฝึกทหารใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานการฝึกของกองทัพบก ดูแลสุขภาพและป้องกันไม่ให้ทหารใหม่เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากความร้อน รวมถึงกำกับดูแลไม่ให้มีการลงโทษที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้ขอให้กำลังพลมุ่งมั่นทำงานในหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพราะกองทัพบกเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่บนความคาดหวังของประชาชนจึงต้องพร้อมในทุกภารกิจ และดำรงความเป็นองค์กรหลักด้านความมั่นคงดูแลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยประชาชนปลอดภัย พร้อมกับให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์บ้านเมืองและรับฟังข้อมูลข่าวสารในทุกด้านอย่างมีเหตุมีผล เชื่อมั่นในสายการบังคับบัญชา และยังคงปฏิบัติภารกิจสนับสนุนศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ทั้งในเรื่องการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ การตั้งจุดตรวจร่วมความมั่นคง และการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่
ด้าน พ.อ.บรรพตกล่าวภายหลังการประชุมว่า ก่อนการประชุม ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัล พร้อมกล่าวชมเชยกำลังพล ฉก.ปัตตานี 25 ทั้ง 3 นาย ที่เข้าช่วยเหลือเด็กจมน้ำ ขอให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่กำลังพลทุกระดับชั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาสและไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนเรื่องการบริการรับ-ส่งกำลังพลลาพักตามวงรอบด้วยสายการบินพาณิชย์ จะช่วยลดเวลาการเดินทาง และช่วยบำรุงขวัญกำลังพล ขอให้หมุนเวียนให้กำลังพลได้รับบริการอย่างทั่วถึง