รองโฆษก ทบ.เผย ทบ.ไม่ได้จัด รปภ.พิเศษ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ แจงดูแลที่สุ่มเสี่ยงใช้อาวุธกับ ตร. ไร้คำสั่งพิเศษ คุ้มกันบุคคลเป็นพิเศษพิจารณาตามระเบียบ ยันนโยบาย ผบ.ทบ.ดูแลทุกคน ชี้ พล.ปตอ.ดูที่แจ้งวัฒนะ เชื่อมดูแลร่วมทุกฝ่าย ที่ผ่านมาโอเค กวป.ยื่นหนังสือศาล รธน.ก็ประสานให้ กอ.รมน. แจงขยาย พ.ร.บ.มั่นคงตามขั้นตอน ครม. รอ สมช.ประเมิน
วันนี้ (23 เม.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” ถึงการที่มีทหารมาช่วยคุ้มครองความปลอดภัยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธว่า กองทัพบกไม่ได้ถึงขั้นจัดชุดรักษาความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษให้แก่ พล.ต.นพ.เหรียญทองแต่อย่างใด ทั้งนี้ที่ผ่านมากองทัพบกมีการจัดกำลังดูแลพื้นที่สุ่มเสี่ยง และเฝ้าระวังการใช้อาวุธสงคราม โดยแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ซึ่งเป็นภารกิจที่หน่วยงานความมั่นคงต้องทำอยู่แล้ว ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใดๆ เป็นการปฏิบัติตามช่องทางปกติภายใต้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่มอบหมายให้ตำรวจและทหารดูแลพื้นที่ โดยจะต้องปรับมาตรการป้องกันเหตุ โดยเฉพาะเรื่องการใช้อาวุธสงครามในพื้นที่เขตชุมชนเมือง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพบว่ามีพื้นที่เสี่ยงมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่จะต้องเฝ้าระวังป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในพื้นที่รับผิดชอบให้ได้อย่างดีที่สุด ส่วนการขอกำลังไปดูแลความปลอดภัยบุคคลใดเป็นพิเศษนั้นจะต้องพิจารณาตามระเบียบของกองทัพ ขอย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีนโยบายที่จะดูแลประชาชนทุกคนให้เกิดความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย
“สำหรับการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ มีกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากการดูแลตามจุดที่ได้รับมอบหมายโดยรอบแล้วยังมีการจัดชุดจักรยานยนต์ลาดตระเวน และเชื่อมต่อการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ร่วมกับทุกฝ่าย ที่ผ่านมาสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ส่วนกรณีกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เข้ายื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็มีประสานงานดูแลจนการยื่นหนังสือเสร็จสิ้น ก่อนจะเกิดเหตุเสียงอาวุธปืนดังขึ้น และได้รายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้ ผบ.ทบ.ได้รับทราบเรียบร้อย” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว
ขณะที่ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงการขยายการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ว่า เป็นไปตามขั้นตอนของคณะรัฐมนตรี และต้องรอการประเมินจากหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นผู้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็ต้องมีรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานด้านการข่าวที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงที่มีการประเมินตลอดเวลา