เลขาฯ สภาฯ เปิดโครงการสืบสานประเพณีไทย เฉลิมฉลอง 120 ปีกษัตริย์นักประชาธิปไตย เสวนาวัฒนธรรมไทย ก่อนแห่ขบวนพระพุทธรูป สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวข้าราชการผู้ใหญ่ สสส.ร่วมแจมจัดชุดความรู้เตือนภัยโรคหน้าร้อนและสุขภาพดีต้องปลอดบุหรี่-ปลอดเหล้า
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการสืบสานประเพณีไทย เฉลิมฉลอง120 ปี กษัตริย์นักประชาธิปไตย” พร้อมลั่นฆ้องชัยเพื่อเป็นสิริมงคลในพิธีเปิดงาน โดยมีคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษา ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ตลอดจนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยนายสุวิจักขณ์กล่าวว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงสละพระราชอำนาจและทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแก่ปวงชนชาวไทยในการใช้เป็นกฎหมายสูงสุดปกครองประเทศ และยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักประชาธิปไตยที่มุ่งมั่นพัฒนาวางรากฐานระบอบการปกครองประชาธิปไตยและการเมืองให้เจริญก้าวหน้า รวมถึงด้านประเพณีและวัฒนธรรม และเพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทยที่ดีงามต่อการเสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างกันในองค์กร ตระหนักถึงคุณค่าสถาบันครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นการทำตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการจัดเสวนา “สืบสานประเพณีไทย... จากรัชสมัยพระปกเกล้าฯสู่ปัจจุบัน” โดยนางมาลินี สาคริก ประธานมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ และนายสามารถ จันทร์สูรย์ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนางมาลินีกล่าวถึงวัฒนธรรมจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันว่า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯได้ทรงปูพื้นฐานวัฒนธรรมประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็งที่สามารถเปลี่ยนผ่านบ้านเมืองได้โดยเสียเลือดเนื้อ จึงเป็นรากฐานให้ประเพณีคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม โลกทุกวันนี้เติบโตเร็ว ดังนั้นทุกคนและข้าราชการรัฐสภาต้องช่วยกันเองกันแก้ไขเพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่แท้จริงให้คงไว้ ดังที่รัชกาลที่7 ทรงสละอำนาจให้ประชาชนทรงอำนาจไว้ เพื่อยึดแนวทางสร้างสันติสุขให้คนในชาติ
ขณะที่นายสามารถกล่าวว่า ประเพณีของไทยที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งบางประเพณีมีการทำลายคุณค่า สิ่งที่ดีงาม เช่น ประเพณีสงกรานต์ที่ปัจจุบันมีการฉีดน้ำ สาดน้ำ แทนการรดน้ำ และยังมีการทำผิดศีลและใช้แป้งลวนลามเพศตรงข้าม ถ้ารุนแรงก็ถึงขั้นฆ่า หรือดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย ทั้งที่คุณค่าของประเพณีคือความรัก เคารพนับถือกันในการรดน้ำดำหัวด้วยน้ำที่บริสุทธิ์ สะอาด แต่ปัจจุบันกลับเป็นการทำลายความสัมพันธ์แก่กัน จึงอยากขอให้ทุกคนจึงควรตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามได้อยู่กับประเทศชาติสืบต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีการจัดขบวนแห่พระพุทธรูปทองคำ การสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำรัฐสภา และรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้บริหารสำนักงาน ขณะเดียวกัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมจัดบูทศูนย์สุขภาพ พร้อมจัดเอกสาร หนังสือ แผ่นพับ ชุดความรู้ด้านสุขภาพและการเล่นสงกรานต์ รวมทั้งแผ่นพับเตือนภัยโรคหน้าร้อน และเอกสารรณรงค์ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่เพื่อสุขภาพดียั่งยืน พร้อมกันนี้ทางสภาฯยังได้จัดบูทบริการอาหารไว้เลี้ยงผู้ร่วมกิจกรรมอย่างครบครัน