ผ่าประเด็นร้อน
ใครจะคาดคิดว่าระบอบทักษิณ หรือ ทักษิณ ชินวัตร จะกล้าพลิกลิ้นกลับลำเป็นผู้เสนอใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ โดยรัฐบาลเป็นผู้ทูลเกล้าฯนายกรัฐมนตรี หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นั้นมีความมิชอบและส่งผลให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสภาพไปพร้อมกับคณะรัฐมนตรี
หากย้อนรอยตัดตอนเอากันเฉพาะเรื่องมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตร ต่อต้านมาโดยตลอด เพราะถือว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์ ไฟเขียวให้บรรดาขี้ข้าออกมาเยาะเย้ยถากถางแนวความคิดแบบนี้มาโดยตลอด รวมไปถึงเหน็บแนมตีกระทบชิ่งไปถึง “สถาบันเบื้องสูง” อยู่ตลอดเวลา
นั่นคือท่าทีของพวกเขาในช่วงที่อยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบหรือตัวเองกำลังกุมสภาพทุกอย่างได้อย่างเบ็ดเสร็จ ยังยะโสโอหัง แต่การเปลี่ยนท่าทีล่าสุดถือว่า เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า กลับหลังหันโดยสิ้นเชิง
การที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชัยเกษม นิติศิริ และ โภคิน พลกุล ที่ถือว่าฝ่ายกฎหมายของระบอบทักษิณ เป็นผู้เสนอหน้าออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรา 7 แม้ว่ายังเป็นวาระแอบแฝง นั่นคือต้องเป็น “รัฐบาล” เท่านั้นที่เป็นฝ่ายทูลเกล้าฯเสนอชื่อนายกฯพระราชทาน ความหมายก็คือเป็นนายกฯพระราชทานที่ฝ่ายระบอบทักษิณ เสนอทูลเกล้าฯ
ดังนั้นกล่าวโดยสรุปก็คือหากทุกอย่างเป็นไปตามนี้อำนาจของรัฐบาลใหม่ชั่วคราว เพื่อตอบสนองเรื่องการปฏิรูปการเมือง ก็ยังอยู่ในกำมือของพวกเขา ของทักษิณ ชินวัตร อยู่ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดีข้อเสนอดังกล่าว หากมองอีกมุมหนึ่งก็ย่อมมองเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า นี่คือสภาพการถอยร่นแบบจนตรอกเต็มทีแล้ว เพราะถ้าถึงขั้นยอมรับวิธีการของฝ่ายตรงข้ามที่ตัวเองเคยต่อต้านและเยาะเย้ยมาตลอด กลายเป็นผู้เสนอเสียเอง แม้ว่าจะพยายามสร้างเงื่อนไขต่อรอง แต่ความหมายก็คือสนับสนุนนายกฯ มาตรา 7 นั่นแหละ
ขณะเดียวกันถ้าสังเกตให้ดีเราก็จะเห็นร่องรอยหรือที่มาของการพลิกลิ้นดังกล่าว น่าจะมาจากการรับรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากถูกสังคม “ตาสว่าง” รู้ทัน ได้เห็นถึงความห่วยแตกมากขึ้นทุกวัน พฤติกรรมไม่ต่างจากโจรร้าย ได้รับรู้ว่าบรรดาลิ่งล้อรอบตัวล้วนมีเจตนา “ล้มเจ้า” หลายคนได้เปิดเผยหน้าเผยตา เผยธาตุแท้ให้เห็นจนน่าสะอิดสะเอียน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลหุ่นเชิดที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ ตรงกันข้ามยังพยายามดิสเครดิตข่มขู่ทุกทาง อ้างว่าศาลฯไม่มีอำนาจในการพิจารณาความผิดของพวกเขา แต่สถานการณ์ล่าสุดทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป เพราะพวกเขากำลังถูกรุกไล่จนถอยร่นไม่เป็นขบวน และกำลังจะพบจุดจบในอีกไม่นานนี้ จึงพยายามแก้เกม เพื่อต่อรองกันจนถึงนาทีสุดท้าย แต่เท่าที่เห็นก็คือหนทางข้างหน้ามันตีบตันเข้ามาทุกทีแล้ว!!