รายงานการเมือง
ช่วยประโคมโหมไฟกันอย่างหนัก เพื่อให้การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 5 เม.ย.เสาร์ห้า ดูน่ากลัวและเข้มขลังมากที่สุด สำหรับสมุน ขี้ข้า ลิ่วล้อ นช.ทักษิณ ชินวัตร
แต่ที่เป็นไฮไลต์น่าสนใจไม่น้อยคือ การเลือกจุดยุทธศาสตร์ปักหลักวัดขุมพลัง โดยใช้ถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย 3 เป็นกองบัญชาการแดงทั้งแผ่นดิน
เหนือความคาดหมาย จากที่ตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่า น่าจะวางกองกำลังไว้แถว จ.ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ หรือพระนครศรีอยุธยา ล้อมเมืองกรุงที่กลุ่ม กปปส.ของ “กำนันเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งฐานแพ็กกันแน่นอยู่
แต่เมื่อลงเอยที่ จ.นครปฐม นัยยะจึงเหลือแค่ไม่กี่อย่าง ว่ากันตามยุทธศาสตร์เรื่องพื้นที่ ถือว่าไม่เซอร์ไพรส์เท่าไหร่หากไพร่พลแดงจะกรีธาทัพมา จ.นครปฐม เนื่องด้วยเพราะมีอาณาเขตติดต่อกรุงเทพมหานคร เดินทางไปมาไม่กี่นาที
เป็นการจงใจวางกองกำลังให้ใกล้พื้นที่เมืองหลวงที่ม็อบ กปปส.ชุมนุมอยู่มากที่สุด เพื่อส่งสัญญาณไปถึงฝ่ายอำมาตย์ และเร้าสถานการณ์ให้ดูระทึกตลอดเวลา มีภาพบรรยากาศแห่งความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้า
แต่ยังรักษาเหลี่ยมไว้ด้วยการเลือกพื้นที่ที่ยังอยู่นอกพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อโชว์ภาพการชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสา
ที่สำคัญ การอยู่นอกพื้นที่บังคับใช้กฎหมายพิเศษ ยังเป็นการปูพรมเปิดทางให้โจรเผาบ้านเผาเมืองด่ากราดฝ่ายอำมาตย์กันได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องไปพะวงเกรงกลัวจะผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคง
ขณะเดียวกัน จ.นครปฐม ยังเป็นฐานที่มั่นของมาเฟียเมืองเจดีย์ใหญ่ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เคยสร้างผลงานประจักษ์ด้วยการขนมวลชนเข้าร่วมสมทบม็อบแดงมาหลายครั้งหลายครา เมื่อมาใช้ถนนอักษะ จึงง่ายต้องการเกณฑ์ไพร่พล แถมยังไปเช้า-เย็น กลับพรุ่งนี้มาใหม่ได้ ล็อกตามสไตล์ม็อบ กปปส.ที่คนแพ็กกันแน่นได้ยืดเยื้อยาวนาน เพราะมีคนกรุงเป็นฐานเสียงสำคัญ พร้อมจะเดินออกมาฟังปราศรัยทุกเมื่อ
นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดช่องให้จังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีเสื้อแดงหนาแน่นได้แห่มาสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงนนทบุรี แดงปทุมธานี แดงสมุทรปราการ แดงพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งแดงประปรายใน กทม.มาสมทบแบบเดินทางไม่ยากเย็นนัก
แถมยังจะได้พ่วงจังหวัดติดต่อนครปฐมเข้ามาเสริมด้วย โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี ของ “ปลาไหลตัวพ่อ” นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
ที่แว่วมาว่า จะขนกองกำลังหนุนเข้ามาช่วยเติมไพร่พลเสื้อแดงในครั้งนี้ด้วย ตามคิวที่จับสัญญาณกันได้ “ปลาไหลตัวพ่อ” ยังคลั่งไคล้ในอำนาจ ตัดตัณหาไม่ขาด จึงเร่งปั้นภาพผลงานระดับโบแดงให้เตะตา นช.ทักษิณ หวังรอรับส้มหล่น หากสถานการณ์พลิกผันจับผลัดจับผลู หวยออกถูกดันให้เป็นนายกฯนอมินีขึ้นมา
เช่นเดียวกับ “ขี้ข้าตัวพ่อ” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่ออกเรียกเชียร์ม็อบ นปช.แบบน่าเกลียด ที่ได้จังหวะดีใกล้พื้นที่ตัวเอง ขนคนฝั่งธนเข้าตามมาสมทบ ปั่นโปรไฟล์โชว์นายใหญ่กับเขาเหมือนกัน
แล้วที่ต้องสแกนกันให้ดี ตามเสียงซุบซิบว่า จะมีการเกณฑ์แรงงานชาวพม่าตามโรงงานเข้ามาช่วยทำให้ปริมาณมวลชนมีจำนวนมากเท่าที่จะทำได้ ด้วยเพราะเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ มีโรงงานอุตสาหกรรมที่แรงงานเหล่านี้ไปประกอบอาชีพอยู่เพียบ
แถมพื้นที่ใกล้เคียงอย่างอย่างสมุทรสาคร และสมุทรปราการ ก็แรงงานไทยที่หัวใจสีแดงมีไม่น้อย อาจมีการระดมจ้างคนมาร่วมชุมนุม ตามเหตุปัจจัยวันหยุดที่เอื้ออำนวยให้ ดังจะเห็นท่าที “ขี้ข้าตัวพ่อ” ที่ออกมาการันตีมิตรรักสหายเสื้อแดงวันดีเดย์มาเป็นแสนแน่หลักๆ ยุทธศาสตร์พื้นที่ครั้งนี้เน้นระดมคนง่ายจากทั่วสารทิศของฐานเสียง!!
แต่ที่คลุมเครือน่าจะเป็นความหมายที่ “คางคกตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.แกะกล่องแฝงในการเลือกพื้นที่อย่างถนนอักษะ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นฐานพระราชฐาน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเลือกใช้เป็นสมรภูมิในลักษณะนี้ชุมนุม ขณะเดียวกัน ยังเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา มันจึงสอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของ “คางคกตู่” ที่เคยระบุว่า “หมอไม่หา พระไม่ไหว้”
ส่อสันดานไม่ดี!!
ขณะที่วันเผด็จศึก 5 เมษาฯ ฟันธงไปเลยว่า เป็นเรื่องของไสยศาสตร์มนต์ดำตามรสนิยมของ “คางคกตู่” ที่คลั่งไคล้เรื่องฤกษ์ยาม โดยวันดังกล่าวตรงกับวันเสาร์พอดิบพอดี เลยกลายมาเป็น “เสาร์ 5” ตามความเชื่อคนไทยที่มองว่า เป็นวันแข็งเหมาะแก่การทำการใหญ่
แถมในทางทฤษฎียังเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คาบเกี่ยวไปจนถึงวันจันทร์เป็นวันหยุดชดเชยวันจักรี เปิดทางให้แฟนคลับที่ติดเรื่องภารกิจการงานหอบหิ้วความเชื่อผิดๆ มาร่วมกิจกรรมได้ถึง 3 วัน
นอกจากนี้ การเลือกถนนอักษะ ที่มีลักษณะทอดเป็นแนวยาว ไม่ใช่พื้นที่กว้าง จะยิ่งทำให้ดูว่ามวลชนมีปริมาณมากหางแถวยาว เมื่อบวกกับความสวยงามของถนน จะได้ภาพที่ยึดหน้าสื่อในวันรุ่งขึ้น แย่งซีนม็อบ กปปส.ได้
ทีมงานสมุน ขี้ข้า ลิ่วล้อ วางโปรเจกต์กันมาเป็นกระบวนการ ตามคิวที่ถึงเวลาต้องทุ่มหมดหน้าตัก เนื่องด้วยเพราะสถานการณ์รัฐบาลทรราชใกล้ฉิบหายวายป่วนเต็มกลืน โดยเฉพาะห้วงเดือนเมษาฯหฤโหดที่มีปฏิทินคดีความของ “นรก.ปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รอเชือดคาเขียงเพียบ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีถอดถอน ปมละเว้นการปฏิบัติหน้าปล่อยปละให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่เข้าโค้งสุดท้าย นับถอยหลังรอวันเชือด ตามโปรแกรมที่พอเห็นคร่าวๆ ไม่ปลายเดือนเมษาฯ ก็ต้นเดือนพฤษภาฯ เป็นอย่างช้า โอกาสรอดเหลือแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์
หรือจะกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับตีความสถานภาพ “นรก.ปู” หลังจากเด้ง นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการเปิดทางให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ที่งานนี้มีลุ้นโดนล้างบางกันยกขั้วยกแผงทั้ง ครม.ขี้ข้า
รัฐบาลทรราชสิ้นไร้ไม้ตอก หมดกระบวนท่าต่อสู้ เหลือแค่เอาหลังพิงแดงสู้แบบหมาจนตรอก โดยเลือกวันเสาร์ 5 เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย โดยหวังผลเพื่อต้องการส่งสัญญาณออกมาว่ายังมีมวลชนให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ไม่ได้อ่อนกำลังลงจากที่มีการสบประมาทว่า ไร้น้ำยาก่อนหน้านี้ รวมทั้งต้องการเกทับบลัฟมวลชน กปปส.เพื่อแสดงให้เห็นว่า นปช.มีจำนวนคนมากกว่า
เสาร์ 5 เลยต้องทุ่มหมดหน้าตัก หมดไส้หมดพุง เพราะถ้าแป้กอีก จะถูกเหยียบและเยาะเย้ยจนจมดินแน่.