มือมืดซุ่มยิงใส่ขบวน คปท.ระหว่างกลับทำเนียบรัฐบาล ช่วงขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน กระสุนโดนผู้ชุมนุมเจ็บ 5 พบถูกศีรษะ 1 ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว พบเป็นการ์ดถูกยิงบนรถเครื่องเสียง ขณะที่ “สาทิตย์” ทวีตเบาะแสแก๊งแดงโพสต์ “ทีมโกตี๋” สอย
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. มีรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ขบวนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย บริเวณทางขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน หน้าปากทางเข้าวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี หลังจากขึ้นทางด่วนไปแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างกำลังเดินทางกลับจากการชุมนุมที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ไปที่เวทีทำเนียบรัฐบาล พบรอยกระสุนยิงบริเวณรถบัส เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บรวม 5 คน เป็นชาย 2 ราย หญิง 3 ราย โดยมี 2 รายถูกยิงบริเวณศีรษะและแขน นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 มีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 คน ส่วนหญิงอีก 2 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ต่อมาเวลา 15.30 น. มีรายงานจากแหล่งข่าวใน คปท.ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ชื่อ ส.อ.วสันต์ คำวง เป็นการ์ดที่ถูกยิงศีรษะบนรถเครื่องขยายเสียง ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 3 รายถูกนำตัวส่ง รพ.รามาธิบดี โดยถูกยิงบริเวณขา 1 ราย แขน 1 ราย และข้อมือ 1 ราย ทางด้านขบวน คปท.ได้มาถึงเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว อย่างไรก็ตาม แกนนำ คปท.จะมีการแถลงข่าวในเวลา 17.00 น.วันนี้
อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ @satittrang1 ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.เผยแพร่ภาพข้อความหน้าเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ลุงยิ้ม ตาสว่าง โดยเขียนว่า “วันนี้อย่าเข้าใกล้ ลุงกำนัน ได้ข่าวทีมงานโกตี๋ ขนขนมจากชายแดนไปรอตอนขากลับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับทางด่วนสงสัยจะงานเข้า”
ต่อมา เวลาประมาณ 18.00 น. คปท.ได้แถลงข่าวที่เเวทีสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. กล่าวว่า ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าว่า การเคลื่อนขบวนของ คปท.วันนี้จะมีเสื้อแดงและกลุ่มก่อกวน จะมีการซุ่มทำร้าย กว่าขบวนจะเคลื่อนออกได้ ก็ใช้เวลากันพอสมควร หลังออกจากศูนย์ราชการขึ้นทางด่วนได้ 10 นาที ได้รับแจ้ง มีการซุ่มยิงขบวน คปท.บนทางด่วน ใกล้ๆ วัดบัวขวัญ ใกล้แฟลตเอื้ออาทร ขบวนจึงขับมาหยุดที่ด่านเก็บเงิน จึงนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เหตุนี้ เจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต คือสิบเอกวสันต์ ที่เป็นการ์ด คปท.อยู่บนรถปราศรัย
เมื่อตรวจสอบพบกระสุนที่ฝังอยู่ที่กระเป๋าของผู้ชุมนุม ที่อยู่ในรถบัส ซึ่งบางส่วน ตอนนี้ ส่งรูปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธตรวจสอบแล้ว แต่เบื้องต้นคาดว่า ไม่น่าใช่ปืนสั้น หรือ ปืนพก
หลังเกิดเหตุ เมื่อกลับมาถึงทำเนียบฯ ได้พยายามติดต่อ ไปที่ตำรวจภูธร ภาคที่ดูแลพื้นที่ ให้ตรวจสอบ วิถีกระสุน, รถปราศรัย เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดี หรือลงพื้นที่มาตรวจสอบ จนแต่ถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจที่รับผิดชอบ จึงขอเรียกร้องตำรวจให้ตรวจสอบ อย่ามัวแต่กลัวคนเสื้อแดง
นายนัสเซอร์ กล่าวต่อว่า ในระหว่างออกเดินทางมีกลุ่มการ์ด กปปส. ที่ดูต้นทางให้ และข้อมูลการข่าว รับแจ้งแค่ว่าจะมีการก่อกวนพื้นที่ด้านล่าง และจุดขึ้นทางด่วน ในทางการข่าว ไม่มีการแจ้งว่า จะเกิดเหตุในแนวระหว่างทางด่วน
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.กล่าวว่า หลังจากนี้ คปท.จำเป็นต้องติดเครื่องป้องกันตัว เพื่อดูแลชีวิตพี่น้อง คปท. เราเสียใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อเนื่อง พร้อมการป้องกันตัวสูงสุด บ้านเมืองนี้จะมีเจ้าหน้าที่ไว้ทำไม ถ้าดูแลประชาชนไม่ได้ ประชาชนก็มีสิทธิป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดเหมือนกัน เพื่อป้องกันชีวิต เราจะชุมนุมสงบ สันติ เหมือนเดิม แต่เราก็พร้อมตอบโต้ทันทีเช่นกัน สถานการณ์วันข้างหน้าจะเป็นไง ก็เป็นกัน
นายนิติธรกล่าวอีกว่า คนที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์นี้คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่เราไม่ได้เรียกร้องให้คุณมาดูแลพวกเรา เพราะ คปท.เราจะรับผิดชอบชีวิตกันเอง เพราะ 5 เดือนกว่า ที่มีการชุมนุม เราก็ดูแลตัวเอง
ด้านอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท.กล่าวว่า ขอประณามคนร้ายที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยม มีการใช้อาวุธสงครามทำร้าย ประชาชน ที่ผ่านมา การชุมนุมของ คปท. เป็นไปอย่างสงบ สันติวิธี และปราศจาคอาวุธ วันพรุ่งนี้ คปท.จะไปรับสิบเอกวสันต์ การ์ดที่เสียชีวิต เวลา 11โมง มาที่วัดโสมมนัส เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ ตำรวจต้องรับผิดชอบ เร่งจับกุมให้ได้เร็ววัน และคปท.จะทวงถามไปยังตำรวจภูธรภาคหนึ่ง ตอนนี้ มีความพยายามในการสกัดกั้นผู้ที่ทำเพื่อประชาธิปไตย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คปท.จะเดินหน้าเรียกร้องชุมนุม เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป
ต่อมา เวลา 19.40 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษกประจำเวที ปคท. ได้กล่าวในพิธีไว้อาลัยนายวสันต์ คำวงศ์ ว่า ตนรู้สึกผิด เพราะเหมือนว่าพานายวสันต์ไปตาย โดยก่อนเกิดเหตุหลังจากขบวนได้ขึ้นบนทางด่วนแล้ว ได้เกิดขบวนขาด รถเครื่องเสียงที่ตนนั่งไปและขับนำหน้าอยู่ห่างจากรถคันอื่น ตนจึงคิดว่าน่าจะจัดขบวนใหม่ เพื่อให้ดูแลกันได้อย่างทั่วถึง และจะขึ้นไปบนหลังคารถ ซึ่งนายวสันต์ก็ขึ้นไปก่อน ในฐานะที่เป็นการ์ดที่ต้องดูแลผู้ปราศรัยและผู้ชุมนุม โดยไปยืนอยู่บริเวณลำโพงด้านหน้า และตนได้บอกคนขับรถให้ขับช้าลง เมื่อรถขับผ่านใกล้วัดบัวขวัญ ก็มีคนซุ่มยิงมาจากตึกสูงเข้าใส่ เท่าที่นับได้ 6 นัด มีการ์ดคนหนึ่งชื่อน้องเอกถูกยิงที่ขา ตนจึงบอกให้คนขับรถขับไปให้เร็วที่สุด และตะโกนว่าพวกเราถูกยิง และให้ติดต่อหน่วยพยาบาลด่วน ต่อมาก็เห็นภายหลังว่านายวสันต์ถูกยิงที่ศีรษะนอนแน่นิ่ง หลังจากผ่านจุดเกิดเหตุ 4-5 กม. รถบัสของพี่น้องผู้ชุมนุมที่ขับตามมา 500 เมตร ก็เร่งความเร็วมาถึง และพี่น้องก็ชูมือตบและร้องตะโกนว่าพวกเราถูกยิง ซึ่งแสดงว่าไม่ได้ยิงเฉพาะพวกเรา แต่ยิงประชาชนผู้ร่วมชุมนุมด้วย หลังจากนั้นได้ไปคอยอยู่บริเวณจุดเก็บเงิน และเตรียมนำผู้บาดเจ็บใส่รถปิ๊กอัป แต่หลังจากนั้นรถพยาบาลกู้ชีพก็มาถึง จากนั้นเราก็หวังว่าเพื่อนๆ คนอื่นคงปลอดภัย แต่ห่วงนายวสันต์ เมื่อขบวนรถผ่านไป ตนได้ขึ้นไปนั่งบนรถกับนายกิตติชัย ใสสะอาด และนายกิตติชัย บอกว่า วสันต์มันเป็นเพื่อนผม และร้องไห้ออกมา ตนเจ็บใขกับการตัดสินใจช่วงวินาทีนั้น ถ้าช้าอีกนิดหนึ่งก็จะพ้นแนวกระสุน เป็นบาดแผลในใจที่ไม่อาจลบออกไปได้ มีทางเดียวที่จะให้นายวสันต์ได้ไปสู่สุขคติ พี่น้องต้องต่อสู้ต่อไป ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตนของประชาชนเท่านั้น เพราะนายวสันต์เคยบอกกับตนว่า เราต้องไม่เตะหมูเข้าปากหมา อำนาจรัฐจะต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นความเจ็บแค้นในใจของพี่น้องขอให้นึกถึงเจตนารมณ์ของนายวสันต์ เราต้องเดินไปให้สุดทาง เอาอำนาจเป็นของประชาชน บาดแผลในใจความแค้นจะไม่ลบเลือน ถ้าตนไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นคนทำ