“หมอวรงค์” ขอบคุณ “กิตติรัตน์” ยอมพลีชีพ เซ็นอนุมัติงบฯ กลาง 2 หมื่นล้านใช้หนี้จำนำข้าว เตือนอย่าใช้เงินผิดขั้นตอน จ่ายให้เฉพาะพื้นที่ฐานเสียงตัวเอง จี้ กกต.ตรวจสอบ พร้อมถามแล้วอีกแสนกว่าบาทที่เป็นหนี้ชาวนาจะเอามาจากไหน เงินระบายข้าวจะนำมาคืนทัน 31 พ.ค. 2557 หรือไม่ เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ผวาถูก ป.ป.ช.เชือด เหตุสมุนลิ่วล้อกดดัน ข่มขู่ ยิงระเบิดใส่ไม่หยุด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายก และ รมว.คลัง เซ็นอนุมัตงบกลาง 2 หมื่นนล้านบาท เพื่อชำระหนี้ให้ชาวนาว่า ขอขอบคุณที่ทำหน้าที่ตรงนี้ แต่ขอย้ำว่าการเซ็นครั้งนี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เพราะตัวเลขที่เป็นหนี้ชาวนานั้นเป็นวงเงิน 1.2 แสนล้าน แต่เพิ่งอนุมัติแค่ 2 หมื่นล้าน ยังเป็นหนี้อีก 1 แสนล้าน จึงมีคำถามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และ รมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกฯ รมว.พาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ต้องตอบว่าหนี้อีกแสนล้านบาทจะหาเงินจากไหน และสามารถชำระหนี้ให้ชาวนาได้เมื่อไหร่
“คงหวังลมๆ แล้งๆ จากกองทุนช่วยเหลือชาวนาที่ขณะนี้มีเพียงแค่ราวพันล้านบาทไม่ได้ ผมเชื่อว่าการระบายข้าวไม่มีทางได้เงิน 1 แสนล้านบาท เพราะต้องนำเงินระบายข้าวนับจากนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2557 ไปใช้หนี้งบกลาง อีกทั้งยังเป็นวงเงินที่ต้องชำระให้กับเกษตรกรที่มีใบประทวนก่อนวันที่ 9 ธ.ค. 2556 จึงต้องมีการตรวจสอบเพื่อไม่ให้มีการนำเงินไปให้เฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงตัวเอง และขอให้ชาวนาแจ้งมายังพรรคประชาธิปัตย์ หากชาวนาที่มีใบประทวนก่อนวันที่ 9 ธ.ค. 2557 แต่ไม่ได้รับเงินจ่ายหนี้จากรัฐบาล โดยพรรคพร้อมที่จะเป็นปากเป็นเสียงแทนชาวนาในการแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ติดตามการชำระหนี้ให้ชาวนาของรัฐบาลเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับชาวนา”
นพ.วรงค์ยังเรียกร้องให้ กกต.ติดตามการระบายข้าวของรัฐบาลด้วยว่าจะสามารถนำเงินมาคืนได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดในวันที่ 31 พ.ค. 2557 หรือไม่ หากไม่สามารถนำมาได้จะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ ยังเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความกังวลเกี่ยวกับคดีการทุจริตจำนำข้าวอย่างมาก โดยขณะนี้มีการกดดันการทำงานของ ป.ป.ช.ทุกรูปแบบ โดยมีการข่มขู่ทั้งวางระเบิด ยิงเอ็ม 79 ส่งคนเสื้อแดงไปปิดล้อม ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมปกป้องประชาธิปไตย แต่เป็นพฤติกรรมที่สะท้อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กลัว ป.ป.ช. เพราะการชี้มูลของ ป.ป.ช.จะมีสภาพบังคับในทางกฎหมายโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่เหมือนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยที่เป็นเรื่องจริยธรรมต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่มีข้อบังคับทางกฎหมาย จึงขอเรียกร้องว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการตายคาสนามประชาธิปไตยจริง ต้องเคารพกระบวนการตรวจสอบ ไม่ใช่ทำลายกระบวนการตรวจสอบเพื่อปกป้องตัวเอง
