กปปส.คึกคัก “อิสสระ” นำมวลชนเคลื่อนขบวนบุกสำนักงานสลากฯ กังขาแอบแฝงผลประโยชน์ร่วมกับรัฐบาล ล็อกหวยตรงเลขทะเบียนรถ “ยิ่งลักษณ์” ทั้งล่าง บน ขณะที่ กปปส.ศูนย์ราชการ เปิดทางให้กรมการกงสุล บริการทำพาสปอร์ตให้ประชาชนวันแรก ด้าน คปท.นำญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมร้อง ยูเอ็น พร้อมยื่นหนังสือชี้แจงเหตุผลที่ต้องชุมนุมขับไล่รัฐบาล “รัฐบาลปู”
การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เช้าวันนี้ (18 มี.ค.) เวทีสวนลุมพินี บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คืนที่ผ่านมาไม่มีการก่อเหตุจากกลุ่มใด มวลชนต่างตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ร่วมรับประทานอาหาร เพื่อเตรียมพร้อมเคลื่อนขบวนปฏิบัติภารกิจปิดสถานที่ราชการ และตัดท่อน้ำเลี้ยงธุรกิจตระกูลชินวัตร โดยเบื้องต้นจะมีขบวนของนายอิสสระ สมชัย และนายทินกร อ่อนประทุม ซึ่งได้นัดมวลชนรวมตัวกันบริเวณประตู 1 สวนลุมพินี
นายอิสสระกล่าวว่า จะนำมวลชนเคลื่อนที่เร็วไปเยี่ยมสำนักงาสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่สนามบินน้ำ เพื่อทวงถามผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มีนาคม 2557 ที่ออกมาตรงกับรถที่นายกรัฐมนตรีใช้เดินทางปฏิบัติงานราชการที่ จ.เชียงใหม่ ทั้งเลขท้าย 3 ตัวรางวัลที่ 1 และเลขท้าย 2 ตัว มีการล็อกผลรางวัลหรือมีผลประโยชน์แอบแฝงกับรัฐบาลหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมวลชน กปปส.นำโดย นายอิสสระ สมชัย เดินทางไปถึงหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ ได้เรียกร้องให้ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก กรณีที่มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเชื่อว่ามีการล็อกเลข พร้อมเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการล็อกเลขดังกล่าว ซึ่งจากข้อมูลสถิเชื่อได้ว่ามีการล็อกเลขอย่างแน่นอน และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการตรวจสอบ จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย จากนั้นจึงปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ทั้งนี้ นายอิสสระ ได้ยื่นเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่พนักงาน เก็บสัมภาระส่วนตัวกลับบ้าน โดยให้เวลาจนถึงเวลา 13.30 น. หากไม่กลับจะปักหลักชุมนุมต่อไป รวมถึงวันพรุ่งนี้ ก็ไม่ต้องมาปฏิบัติงานด้วย โดยตนเองจะนำมวลชนกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ โดยล่าสุด ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีการประกาศให้พนักงานเก็บของ และได้มีการทยอยเดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนมวลชน กปปส.ก็เดินทางกลับเวทีสวนลุมพินี เช่นกัน
สำหรับการชุมนุมของ กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีหลวงปู่พุทธะอิสระ ควบคุมดูแล เช้าวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตลอดทั้งคืนไม่มีการก่อเหตุแต่อย่างใด มวลชนยังพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนการรักษาความปลอดภัย เป็นไปอย่างเข้มงวดกว่า มีการตรวจค้นคนเข้า-ออกพื้นที่อย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จะเปิดให้บริการทำหนังสือเดินทางเพิ่มเติมเป็นวันแรก ตาที่หลวงปู่พุทธะอิสระ อนุญาต โดยจะเปิดทำหนังสือเดินทาง บนชั้น 7 อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คาดว่าเบื้องต้นสามารถรองรับการทำหนังสือเดินทางได้ 300-320 เล่มต่อวัน เนื่องจากอินเทอร์เน็ตมีความเร็วไม่มากพอ
ด้านการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แนวร่วม กปปส.บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล วันนี้ มวลชนยังคงคึกคักต่างตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัว เพื่อรอทำกิจกรรมเคลื่อนขบวนออกนอกพื้นที่ชุมนุมเช่นเดิม โดยเบื้องต้น คปท.เตรียมนำมวลชนไปยังสำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำประเทศไทยเป็นจุดแรก เพื่อยื่นหนังสือชี้แจงเหตุผลในการเคลื่อนไหวทางการเมืองให้ชาวโลกได้รับทราบ พร้อมฟ้องชาวโลกรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่มีแต่สองมือเปล่า โดยในขบวนมีญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมเดินทางไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก คปท. ได้เคลื่อนขบวนไปถึงสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถ.ราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือถึง นายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็น ชี้แจงถึงความเสียหายที่รัฐบาลนี้ได้ทำกับประชาชน พร้อมนำผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยมี นายยู คาโนสุเอะ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายอุทัย ได้อ่านเนื้อหาหนังสือที่ยื่นต่อเลขาฯยูเอ็นระบุว่า คปท.ขอชี้แจงเหตุผลที่ประชาชนต้องออกมาเรียกร้องและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะต้องการความรับผิดชอบต่อการกระทำของรัฐบาล และการปฏิรูปประเทศไทยที่ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งสาเหตุมาจากรัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มุ่งหาทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดโดยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และใช้นโยบายประชานิยมหลอกกลวงประชาชน ซึ่งเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปฏิเสธคำตัดสินของศาลยุติธรรม ปล่อยปะละเลยให้มีการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้เห็นเป็นใจกับกองกำลังติดอาวุธ คุกคามเอาชีวิตคนที่มีความเห็นต่าง เป็นรัฐที่มาจากพรรคพวกใช้ความรุนแรงในการล้มรัฐบาลเมื่อปี 2552-2553 รวมถึงรู้เห็นเป็นใจในการแบ่งแยกประเทศ ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย อ้างเสียงข้างมาก ถือเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก
“จากเหตุผลข้างต้นทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว ประชาชนจึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูปในเรื่องการลดบทบาทของนักการเมือง โดยให้ประชาชนทุกวิชาชีพ ทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมในการจัดการอำนาจบริหารประเทศ โดยผู้ชุมนุมได้ออกมาเคลื่อนไหวทำการประท้วง โดยสันติวิธีไม่มีความรุนแรง ทั้งนี้ ประชาชนเพียงต้องการให้สหประชาชาติและประชาคมโลกทำตามหน้าที่ในการร่วมส่งเสริมประชาธิปไตยที่แท้จริงและยืนเคียงข้างประชาชนเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นขบวนของ คปท.ได้เคลื่อนไปปักหลักที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก โดยได้นำป้ายที่มีข้อความของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ที่ระบุว่า “ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา” มาติดไว้ที่ด้านล่างของป้ายกองทัพบก ซึ่งเป็นข้อความที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้แนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อ่านข้อความ โดยนายอุทัยยังได้ปราศรัยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดรับใช้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย
นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลเตรียมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในส่วนของ กปปส.จะยังไม่ปรับรูปแบบการชุมนุม และยังคงเคลื่อนไหวตามแนวทางที่ได้วางไว้เช่นเดิม ส่วนข้อเสนอของ 6 องค์กรอิสระนั้น จากการพูดคุยร่วมกับแกนนำเนว่าเป็นความหวังดีและขอบคุณ แต่คงไม่สามารถทำตามข้อเสนอไม่ได้ เพราะ 6 องค์กรอิสระไม่ทราบว่ามีใครสั่งการรัฐบาล
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย อีกหนึ่งในแกนนำ กปปส.กล่าวว่าข้อเสนอของ 6 องค์กรอิสระ ถือเป็นความตั้งใจที่ดี ที่พยายามจะหาทางออกให้ประเทศ แต่ส่วนตัวเชื่อคงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่เข้าใจว่าองค์กรอิสระเข้าใจถูกต้องตรงกันหรือไม่ว่า ปัญหาคืออะไร สำหรับตนทางออกที่ถูกต้องคือ การดำเนินการตรวจสอบขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะสามารถทำให้ปัญหาต่างๆ ยุติได้ถ้าทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย