“ยิ่งลักษณ์” เต้น ผู้ตรวจการฯ ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยเลือกตั้งโมฆะ โยน กกต.แม่งานหลัก ส่วนรัฐบาลให้ความร่วมมือเต็มที่แล้ว หวังองค์กรอิสระให้ความยุติธรรม โวยม็อบยืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจ ขอชุมนุมอย่างสงบไม่ขวางการจราจร เมินเจรจา “สุเทพ” ออกทีวี อ้างต้องฟังเสียงทุกคน เสนอทำประชามติ หรือให้มีการเลือกตั้งเพื่อฟังเสียงส่วนใหญ่ ย้ำกอดเก้าอี้ไม่ปล่อยรอรัฐบาลใหม่ เพื่อรักษาประชาธิปไตย แจงเหตุไม่ทำงานในกรุงเทพฯ เลี่ยงเผชิญหน้า รับหน่วยงานราชการยังทำงานไม่ได้ แล้วรัฐบาลจะแก้เศรษฐกิจได้อย่างไร โบ้ย ศรส.ประเมินเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่ด่านศุลกากร จ.มุกดาหาร วันนี้ (7 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษากรนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะว่า คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลก็ให้ความร่วมมือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ถือว่าเป็นแม่งานหลักในการจัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเวลานี้รัฐบาลกำลังถูกองค์กรอิสระเล่นงานเพื่อล้มรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้ และหวังว่าการทำงานต่างๆ ทุกฝ่ายจะไม่มุ่งมั่นในธง หรือเป้าหมาย แต่ขอให้มุ่งมั่นให้ประเทศมีทางออก และให้ความยุติธรรมกับทุกๆ ฝ่าย หากทุกฝ่ายที่เป็นฝ่ายอำนวยความยุติธรรม องค์กรต่างๆ ให้ความยุติธรรมและตอบโจทย์สังคมได้ แก้ปัญหาให้บ้านเมืองเดินได้จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งขณะที่วันนี้เราหาทางออกของประเทศยาก ถ้ามีผู้ที่สามารถที่จะทำให้ทางออกของประเทศมีความคลี่คลายในทางที่สงบและสันติก็จะเกิดประโยชน์โดยรวม
ส่วนที่ทางภาคธุรกิจเอกชนออกมาส่งเสียงสะท้อนได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองและไม่อยากให้มีการชุมนุมลากยาวออกไป เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างประเทศเริ่มทบทวนจะถอนการลงทุนในไทย นายกฯ กล่าวว่า สิ่งนั้นเป็นสัญญานได้ขอร้องผู้ชุมนุม เพราะเป็นผลกระทบจากการชุมนุม แม้ว่ารัฐบาลพยายามประคับประคองไม่ให้การชุมนุมนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่การชุมนุมที่ยืดเยื้อได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามที่จะประคับประคองเศรษฐกิจ แต่ลำพังรัฐบาลคนเดียวคงไม่ได้ คงต้องขอความร่วมมือหลายๆ ส่วน ดังนั้นขอความกรุณาให้ชุมนุมโดยสงบอย่าขวางการจราจรเพื่อให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น สิ่งสำคัญอีกส่วนคือการทำให้กลไกการเลือกตั้งได้เข้าสู่ระบบ ถ้าเราไม่มีกลไกการเลือกตั้งแน่นอนก็จะเป็นปัญหาอย่างนี้ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน การชุมนุมก็ยืดเยื้อรัฐบาลใหม่ก็มาไม่ได้ ถ้าเราจะเริ่มจากการเลือกตั้งให้กลไกการเลือกตั้งกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อให้รัฐบาลใหม่มาทำงานได้ ความเชื่อมั่นต่างๆก็จะกลับมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำหน้าที่ของ กกต.ทำเต็มที่หรือยัง ในการจัดการเลือกตั้งให้ครบ รักษาการนายกฯ กล่าวว่า ประชาชนคงทราบอยู่ก็คงต้องดูกัน ตัวเองก็หวังว่าทุกฝ่ายจะทำงานอย่างเต็มที่ ขอร้องว่าหลังจากนี้เรามาทำงานกันอย่างเต็มที่ จริงๆ ก็ต้องเห็นใจไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือ กกต. ก็ต้องขอร้องผู้ชุมนุมด้วยเพราะการไม่ให้มีการเลือกตั้งก็เท่ากับว่าเราไม่สามารถให้ประเทศไทยเดินตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่ภาคธุรกิจร้องขอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินก่อน เราเองมุ่งว่าสิ่งไหนก็ตามให้เจ้าหน้าที่สามารถประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง อันนี้เป็นจุดหลัก คงขอเวลาให้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ประเมินก่อน
ต่อข้อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย จะเจรจาออกทีวีร่วมกัน เหมือนปี 2553 ที่เคยทำมาแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่างที่เรียนผู้ขัดแย้ง แม้วันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ก็บอกว่าตัดสินใจแทนมวลมหาประชาชนไม่ได้ จริงๆ ต้องถามคนส่วนใหญ่ อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าเราบอกว่าเอาคู่ขัดแย้งต่างคนต่างมาคุย ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่ดูอยู่ คนที่จะต้องอยู่ร่วมกันคือประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ ทำไมเราไม่รับฟังเสียงของทุกคนว่าอะไรคือความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ แต่หากต่างคนต่างบอกว่ามีเสียงประชาชนมีเสียงส่วนใหญ่อยู่ ก็ไม่สามารถที่จะวัดผลหรือให้คำตอบได้ว่าเสียงส่วนใหญ่คืออะไร ดังนั้นกติกาการเลือกตั้งหรือการทำประชามติในส่วนของการปฏิรูปก็ตามอันนี้จะเป็นสิ่งที่ตอบได้อย่างชัดเจน และได้รับการยอมรับ ว่าเสียงส่วนใหญ่นั้นมีความคิดเห็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้นายกฯ ยอมถึงที่สุดแล้วหรือยัง หลังชนฝาแล้วหรือไม่ รักษาการนายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วจุดที่เราทำได้ก็ถอยมาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา และวันนี้มีหน้าที่รักษาการของรัฐบาลเพื่อส่งมอบต่อรัฐบาลใหม่ เมื่อขบวนการเลือกตั้งถูกขัดขวางไม่ให้สามารถที่จะเดินได้ตามกลไกก็ไม่สามารถที่จะเอาใครมารักษาการได้ เราจึงจำเป็นต้องมีหน้าที่รับผิดชอบจู่ๆ จะทิ้งหน้าที่กลางครรไม่ได้
“ต้องขอความเห็นใจให้กับดิฉัน อะไรที่ทำได้ดิฉันก็ทำไปเยอะแล้ว และขอเรียนยืนยันว่าเราไม่ได้อยู่วันนี้ เพื่อที่จะบอกว่าครองอำนาจ หรือเพื่อตัวเอง แต่สิ่งที่เราอยู่คือการรักษาประชาธิปไตยการรับผิดชอบตามหน้าที่ ที่จะต้องส่งมอบให้กับผู้ที่จะมารับหน้าที่ใหม่นั่นคือการเลือกตั้งที่จะได้มีคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าทุกฝ่ายปล่อยให้กลไกต่างๆเหล่านี้เดินเราก็จะเริ่มนับหนึ่งในการเข้าไปแก้ปัญหา”
ผู้สื่อข่าวแย้งง่า แต่วันนี้นายกฯไม่สามารถเดินในกรุงเทพฯได้เลยจะทำอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่นายกฯ คนในตระกูลชินวัตรก็ไม่สามารถเดินได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ดิฉันถึงถามว่าเราจะเป็นอย่างนี้กันหรือ เราเป็นคนไทยที่เราจะไม่มองหน้ากันอีกแล้วหรือ เราจะเป็นคนไทยที่มีแต่ความเกลียดชัง ปลูกฝังความเกลียดชังให้แก่กันและกันตลอดไป ดิฉันเชื่อว่าแม้ว่าดิฉันเดินไปที่ไหนก็ตาม ดิฉันเองแม้ว่าในส่วนของกรุงเทพฯ ดิฉันเองไม่อยากจะมาเป็นเป้า ดิฉันไม่อยากท้าทายพี่น้องประชาชน ดิฉันหลีกเลี่ยงมาทำงานต่างจังหวัด แต่ขณะเดียวกันดิฉันไม่เคยละเลยปัญหาเศรษฐกิจหรือภาพรวม แต่หลายอย่างต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือด้วย วันนี้หน่วยราชการทำงานไม่ได้เลย ถามว่าวันนี้จะให้เศรษฐกิจเดินอย่างไรในเมื่อทุกฝ่ายปิดขวางหน่วยราชการ วันนี้ข้าราชการต้องทำงานไปแต่ละที่ เดินเข้าไปวันนี้เอกสารสักฉบับยังเอาไม่ได้ แล้วจะให้ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร นี่คือคำถามค่ะ”