ตร.ลุยสลาย"สะพานผ่านฟ้าฯ" ผู้ชุมนุมถูกตีเลือดอาบ-ถูกควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขัง พร้อม“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” แกนนำ ก่อนชิงตัวกลับ ขณะตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตารุกยึดพื้นที่ก่อนถูกมือมืดยิงอาวุธหนักจากวัดปรินายก ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ยอดล่าสุด 64 ผู้ชุมนุมเสียชีวิต 3 ราย ตำรวจตาย1
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (18 ก.พ.) ที่เวทีกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 จุดที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ประกาศขอคืนพื้นที่ ได้มีตำรวจหลายพันนายซึ่งนำมาจากกองบัญชาการตำรวจภาค 2 เข้าประชิด และมีการส่งชุดเจรจาเข้าเจรจาขอคืนพื้นที่
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดสระแก้ว ได้เจรจากับตัวแทนกองทัพธรรมเพื่อขอพื้นที่การจราจรบริเวณดังกล่าว ซึ่งผู้ชุมนุมยอมให้เปิดการจราจรให้ผ่านได้บางส่วน เจ้าหน้าที่จึงเริ่มถอนกำลังออกไป
อย่างไรก็ตาม ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า หลังจากผู้ชุมนุมยองเปิดพื้นที่จราจรให้บางส่วนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาขอเจรจาเปิดพื้นที่เพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะเปิดพื้นที่จากสะพานผ่านฟ้าฯ ไปจนถึงสะพานมัฆวานฯ ซึ่งผู้ชุมนุมไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าตำรวจได้คืบจะเอาศอก
เวลา 10.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจถือกระบองพร้อมโล่หลายร้อยนายได้ตั้งแถวพยายามรุกฝ่าแผงกั้นบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ที่ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ชุมนุมที่ขวางต่างสวดมนต์พร้อมสกัดกั้น จนมีผู้บาดเจ็บ และบางรายถูกตำรวจจับกุมส่งเข้ารถคุมขังผู้ต้องหาด้วย
เวลา 11.11 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกตำรวจจับกุมบริเวณด้านหลังที่ชุมนุม กปท. ภายหลังเจ้าหน้าที่รุกฝ่าเข้ายึดพื้นที่ โดยใช้เชือกมัดมือไพล่หลังไว้ ขณะสมณโพธิรักษ์ได้ประกาศทางเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบสันติและอหิงสาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะถูกปิดเครื่องปั่นไฟ สมณโพธิรักษ์จึงพูดกับผู้ชุมนุมทางโทรโข่งแทนเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมตอบโต้ ก่อนที่จะมีการติดตั้งเครื่องเสียงใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ พร้อมกับมีเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งเป็นการยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บหลายคน
เวลาประมาณ 11.40 น. มีการยิงอาวุธหนัก ซึ่งคาดว่าเป็นปืนเอ็ม 16 และระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามาจากทิศทางใด ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3-4 นาย ถูกหามส่งโรงพยาบาล ส่วนทางฝ่ายผู้ชุมนุมยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ โดยต่อมามีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 14 ราย ตำรวจอาการสาหัส 1 นาย ถูกยิงที่ศีรษะ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ
เวลา 11.58 น. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ให้สัมภาษณ์ทางทีนิวส์ว่า ขณะที่เรากำลังนั่งสวดมนต์อยู่ตำรวจก็เข้ามารื้อเต็นท์และข้าวของของเรา เมื่อตำรวจรุกเข้ามาเรื่อยๆ ประชาชนก็ถอยร่นเข้ามาในเวที ขณะนั้นมีผู้ที่อยู่รอบนอกการชุมนุมไม่ทราบว่าเป็นใคร มีทั้งระเบิดอาวุธยิงไปที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บหลายนาย ส่วนฝั่งผู้ชุมนุมก็มีผู้บาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบจำนวน ตอนนี้รถพยาบาลกำลังวิ่งไปวิ่งมาเพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บ และขณะนี้ตำรวจได้กลับไปตั้งหลักที่อาคารเทเวศร์ประกันภัย เป็นการตั้งแนวอยู่ ยังไม่กลับ เตรียมรุกเข้ามาใหม่
ร.ต.แซมดินกล่าวต่อว่า เราพยายามควบคุมมวลชนของเรา ไม่ให้ไปขว้างปาตำรวจ ประชาชนเราไม่มีอาวุธอะไร เมื่อถูกยิงก็โมโห เอาขวดไปปาตำรวจ เราก็พยายามห้ามปราม ตอนนี้เราไปไหนไม่ได้ ต้องควบคุมมวลชนให้อยู่ ไม่ให้ปะทะกันกับตำรวจ และตอนนี้ยังไม่มีการส่งใครมาเจรจาอีก และตอนนี้ยังไม่อยากให้ใครเข้ามา กลัวจะโดนลูกหลง เพราะพี่น้องที่รู้ข่าวก็เข้ามาโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องขอกำลังมาช่วย ตอนนี้ประชาชนก็มีมากแล้ว เราพยายามรักษาพื้นที่ ไม่ให้เกิดการประทะกันเท่านั้น
ร.ต.แซมดินกล่าวว่า คนที่ยิงเข้ามานั้นอยู่คนละทางกับผู้ชุมนุม เพราะผู้ชุมนุมจะอยู่ทางเวทีสะพานผ่านฟ้า แต่มีการยิงมาจากทางวัดปรินายก ซึ่งอยู่นอกเขตของเรา ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากฝ่ายไหน แต่แก๊สน้ำตาที่ตำรวจขว้างออกมามีควันมีกลิ่นก็ทำให้พี่น้องเราบาดเจ็บหลายคนและต้องทำการรักษา
เวลาประมาณ 12.00 น.ฝ่ายผู้ชุมนุมพยายามรุกเอาพื้นที่การชุมนุมคืนไปถึงบริเวณหน้าลานเจษฏามหาบดินทร์ ส่วนตำรวจยังตั้งแนวอยู่ที่บริเวณกองสลาก และมีเสียงผืนดังขึ้นบริเวณแนวปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม รวมผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 20 ราย
เวลา 12.25 น.มีรายงานว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ถูกชิงตัวกลับมาที่เวทีสะพานผ่านฟ้าเรียบร้อยแล้ว
เวลา 12.20 น. ศูนย์เอราวัณรายงานเหตุขอคืนพื้นที่แยกสะพานผ่านฟ้า มีผู็ได้รับบาดเจ็บแล้ว 25 ราย นำส่ง รพ.กลาง 15 ราย หัวเฉียว 2 ราย รามา 2 ราย และวชิรพยาบาล 6 ราย
มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ยอดผู้บาดเจ็บ 25 ราย รวมตำรวจ 4 นาย โดยมีรายชื่อตำรวจบาดเจ็บจากการปะทะ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงฆ์ ย้ายไปรักษาต่อที่รพ.ตำรวจ ได้แก่ 1.ด.ต.กัมปนาท พรสวัสดิ์ โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา,2.ด.ต.วัฒนพงษ์ พระสุรัตน์ โดนสะเก็ดระเบิดที่ต้นขาขวา,3.ด.ต.พรชัย รินทร์อายุ 42ปี โดนสะเกิดระเบิดที่แขนซ้าย,4. ส.ต.ท.สุพล บุตรดี อายุ 35 ปี โดนสะเกิดระเบิดที่ต้นแขนขวา หัวไหล่ขวา ปลายหูขวา
ต่อมาเวลา 12.50 น.มีรายงานเพิ่มเติมว่า มียอดผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็น 44 ราย รักษาตัวที่ รพ.กลาง 15 ราย รพ.หัวเฉียว 13 ราย รพ.วชิระพยาบาล 10 รพ.รามา 2 ราย รพ.สงฆ์ 4 ราย
ขณะที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมยังมีการปะทะกันต่อเนื่อง โดยฝ่ายผู้ชุมนุมพยายามรุกเข้าไปยึดพื้นที่คืน ขณะที่ตำรวจยิงปืนตอบโต้ ทำให้ผู้ชุมนุมถูกยิงได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม จนเวลาประมาณ 13.20 น.เหตุการณ์จึงเริ่มสงบลง
เวลา 13.54 น. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ให้สัมภาษณ์ เอเอสทีวีว่า ล่าสุดสถานการณ์สงบลงแล้ว เมื่อตำรวจล่าถอยออกไปหลังจากถูกประชาชนช่วยกันผลักดันดันสองมือสองเท้า
สำหรับสถานการณ์เมื่อเช้าที่่ผ่านมา ร.ต.แซมดินกล่าวว่า เมื่อตอนช่วงเช้าตำรวจมาขอเจรจากับเรา เราก็ให้เจรจา ไม่ได้ขัดขัดขวาง เขาขอเปิดพื้นที่การจราจร เราก็เปิดให้เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ช่วงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถึงสะพานผ่านฟ้า ลงจากสะพานพระปิ่นเกล้ามาเคยวิ่งได้ 2 เลน เราก็เปิดเป็น 4 เลน หลังจากเจรจาเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะกลับ พอตำรวจชุดนั้นยังกลับไม่หมด ก็มีชุดใหม่มาเจรจาเพื่อจะขอคืนพื้นที่การชุมนุม ซึ่งขอหนักเลย ไม่ให้พี่น้องมีที่ยืนเลย มันเป็นไปไม่ได้ ขณะอยู่ระหว่างการเจรจา ก็มีพี่น้องนั่งสวดมนต์อยู่ 4 คน ตนเห็นว่าน้อยไป เลยให้พี่น้องออกไปสวดมนต์เพิ่มอีก
แต่ตำรวจแทนที่จะหยุดแค่นั้น พี่น้องกำลังสวดมนต์อยู่ดีๆ ก็เดินก็ย่ำผ่านพี่น้องประชาชนมาจนเข้าเขตพื้นที่ชุมนุม มารื้อเต็นท์ ข้าวของพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบ จนข้าวของเสียหายหมด เดิย่ำผ่านมาเลย พระก็ไม่ได้สนใจ ผ่านเลยผู้ชุมนุมไป ก็เลยให้พี่น้องผู้ชุมนุมเข้ามาข้างในเลย เพราะตำรวจเข้ามาแล้ว ตำรวจกับประชาชนก็เแทรกๆ เข้ามาในบริเวณเวทีพร้อมกัน พอมานั่งในเวที ตำรวจก็ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่พี่น้องประชาชน และมีกระสุนยิงตาม พี่น้องก็ขว้างแก๊สน้ำตากลับ ตำรวจก็ยิงกระสุนสวนกลับมา
ขณะที่ตำรวจยิงใส่ประชาชนอยู่นั้น ก็มีระเบิดมาตกตกลงกลางกลุ่มตำรวจที่ไล่ยิงประชาชน ไม่ทราบว่าเป็นของตำรวจหรือของใคร หลังจากนั้นตำรวจก็บาดเจ็บ มีการยิงมาจากทางซ้าย โดยที่ประชาชนอยู่ทางฝั่งขวา ตำรวจเมื่อบาดเจ็บก็ล่าถอยไปที่เทเวศร์ประกันภัย พี่น้องประชาชนก็ตามออกไป โดยไม่มีอาวุธอะไร ก็ดันตำรวจออกไปเรื่อยๆ จนถอยออกไป และไม่มีอะไรแล้ว เพราะประชาชนมีเยอะมาก เพราะเมื่อทราบข่าวประชาชนก็ออกมาช่วยเหลือกัน
ร.ต.แซมดินกล่าวอีกว่า ผู้บาดเจ็บฝ่ายผู้ชุมนุมนั้นยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน แต่ในที่ชุมนุมเห็นเปลสนามเข็นไปเข็นมาทั้งตำรวจและผู้ชุมนุม และมีสมณะถูกจับไป 1 รูป ส่วนนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์นั้นถูกจับไปขังในรถห้องขัง และขณะที่เขาอยู่ข้างหลังรถนั้นมีปืนยิงเข้าไป ตำรวจ 2 นายที่อยู่ท้ายรถก็หลบไป ประชาชนก็ไปเปิดประตูรถช่วยออกมา ส่วนสมณะโพธิรักษ์ยังปลอดภัยดี และยังเทศนาอยู่บนเวที
ต่อมา เวลา 14.14 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุตำรวจ ศรส.ขอคืนพื้นที่แยกสะพานผ่านฟ้าว่า มียอดรวมผู้เจ็บ 58 ราย เสียชีวิต 1 คน รวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็น 59 คน โดยผู้เสียชีวิตชื่อ นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ
เมื่อเวลา 15.00 น. ศูนย์เอราวัณ รายงานเพิ่มว่า ยอดเจ็บเพิ่มเป็น 59 ราย เสียชีวิต 3 ราย รวมเป็น 62 ราย รายแรกชื่อ นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ รายที่ 2ชื่อ ส.ต.อ.เพียรชัย ภารวัตร อายุ 45 ปี มีแผลที่หน้าอก และนายธนูศักดิ์ รัตนคช อายุ 29 ปี มีแผลที่หน้าอกซ้าย ส่วนกรณี ส.ต.ต.พงศกร แสงกลม ผบ.หมู่ ป.สภ.บางละมุง ที่มีข่าวว่าเสียชีวิตจากการถูกยิงนั้นจากการตรวจสอบยังไม่พบ
ต่อมา นายเพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) กล่าวว่า กรณีที่มีภาพ ส.ต.ต.พงศกร แสงกลม ผบ.หมู่ ป.สภ.บางละมุง ซึ่งถูกยิงบริเวณศรีษะ เสียชีวิตนั้น จากการตรวจสอบได้รับการยืนยันว่า ส.ต.ต.พงศกร ยังไม่เสียชีวิต แต่อาการสาหัส ได้มีการเคลื่อนย้ายนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ และกำลังเข้ารับการผ่าตัด โดยคณะแพทย์ รพ.ตำรวจ
ต่อมาเวลา 16.40 น. ศูนย์เอราวัณฯ รายงานว่า จากการเข้าขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าในช่วงเช้าวันนี้ มีรายงานผู้บาดเจ็บจากการปะทะจำนวน 64 คน เสียชีวิต 4 คน รวมเป็น 68 คน นำส่ง รพ.วชิระ 21 คน รพ.กลาง 17 คน รพ.หัวเฉียว 14 คน รพ.รามาธิบดี 8 คน รพ.สงฆ์ 4 คน รพ.ตำรวจ 1 คน รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 คน และ รพ.พระมงกุฏฯ 2 คน
ผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน อยู่ที่ รพ.กลาง 2 คน คนแรกชื่อนายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ และ คนที่สองชื่อ ด.ต.เพียรชัย ภารวัตร มีบาดแผลที่หน้าอก สำหรับผู้เสียชีวิตราย อีก 2 รายอยู่ที่ รพ.วชิระ ชื่อนายธนูศักดิ์ รัตนคช มีบาดแผลที่ หน้าอกซ้าย และอีกรายเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลใต้ราวนม
ทั้งนี้ยอดผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่เหตุที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 จนถึงขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บแล้ว 682 คน เสียชีวิต 15 คน รวมเป็น 697 คน
ต่อมาเวลา 20.53 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ประกาศบนเวทีปทุมวันว่า ทราบชื่อผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตรายที่ 3 แล้ว คือนายศรัทธา แซ่ด่าน ผู้ชุมนุมจากยะลา มาช่วยทำครัวอยู่ที่เวทีลุมพินี
ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ เข้ายึดพื้นที่ถนนราชดำเนินกลาง ใกล้สะพานผ่านฟ้าฯ แต่เช้า(ภาพจากเฟซบุ๊ก)
ผ่านฟ้า-ถนนราชดำเนิน เจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมมรุกขอคืนพื้นที่
ผู้ชุมนุมคว่ำรถกระบะวีโก้ของ ตร.