xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้ ศรส.เร่งลุย กปปส.หวังเอาใจนาย กดดันศาล ไม่เชื่อจ่ายจำนำข้าวได้ตามสัญญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต (แฟ้มภาพ)
ปชป.เชื่อเหตุ ศรส.เร่งขอคืนพื้นที่การชุมนุม กปปส.หวังเอาใจนายใหญ่ กดดันศาลที่จะพิจารณาให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดแรงเสียดทานจากแก๊งแดงที่เร่งให้จัดการผู้ชุมนุม แฉ ผบช.ภ.1 คนใกล้ชิด “ยิ่งลักษณ์” ถูกมอบให้สลายมวลชนแจ้งวัฒนะของ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ขณะเดียวกันตามติดจ่ายเงินจำนำข้าว ไม่เชื่อน้ำยาทำตามที่ให้สัญญาชาวนาได้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ศรส.ประกาศขอคืนพื้นที่ศูนย์แจ้งราชการแจ้งวัฒนะ ว่า ผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวคือ พล.ต.ท.เนรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพราะเคยอบรมในสถาบันวิชาการรุ่นเดียวกันมาก่อน เข้าใจว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามแสดงศักยภาพให้ผู้มีอำนาจได้เห็นจึงขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย อย่าทำอะไรเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเพราะที่สุดแล้วนายกฯและรัฐบาลก็จะผลักภาระความรับผิดชอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่จึงไม่ควรตกเหยื่อในการกระหายอำนาจของรัฐบาล

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เข้าสลายการชุมนุมและขอคืนพื้นที่ของกลุ่ม คปท.บริเวณถนนราชดำเนินนอก เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา เป็นวันพระใหญ่ ประชาชนออกมาปฏิบัติธรรม ทำบุญตักบาตร การสลายการชุมนุมครั้งนี้ จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ พยายามบอกว่าไม่รู้เรื่องกับการยึดพื้นที่ดังกล่าว แต่ตนเชื่อว่านายกฯน่าจะรู้เห็นและไม่ยอมห้ามปรามการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่มีการเตรียมการอาวุธครบมือ รวมถึงมีการแจ้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ให้มารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น นายกฯจึงปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ การที่นายกฯเรียกร้องให้เกิดความรักความเมตตาเป็นการพูดเหมือนท่องบท ไม่ได้พูดจากจิตใจที่แท้จริงที่ต้องการให้คนไทยรักกัน เพราะวันดังกล่าวมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมายึดคืนพื้นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ถ้านายกฯจริงใจก็ไม่ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการกับประชาชนในวันมาฆบูชา

“เหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่า ศรส.น่าจะมีความมุ่งหวังใน 3 ประการด้วยกัน คือ 1. พยายามกดดันศาลแพ่ง ที่จะมีการพิจารณาการเพิกถอนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เห็นได้จากการเข้ายึดคืนพื้นที่มีการกล่าวอ้างว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมียาเสพติด มีอาวุธร้ายแรง มีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำระเบิดแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นของผู้ชุมนุมจริงหรือไม่

2.เพื่อเอาใจนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมา ศรส.พยายามประโคมข่าวว่าจะใช้กำลังยึดคืนพื้นที่พยายามขับไล่ นายสาธิต เซกัล พยายามยึดคืนกระทรวงมหาดไทย แต่ก็ไม่สามารถทำสำเร็จ จึงส่งผลให้นายใหญ่ไม่พอใจ และ 3.เพื่อลดแรงกดดันจากกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงโจมตี ศรส.มีความพยายามให้เปลี่ยนตัว ผอ.ศรส.อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติการต่างๆ ของ ศรส.ไม่สามารถยับยั้งการชุมนุมของประชาชนได้

ขณะที่ นายชวนนท์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศจะจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 17 ก.พ.ว่า พรรคได้ให้ทีมเศรษฐกิจไปติดตามตรวจสอบว่า การจ่ายเงินเป็นไปตามวันที่กำหนดหรือไม่ จ่ายไปยังจุดใด จำนวนเท่าไหร่ เพราะเห็นว่าควรจ่ายเงินให้กับชาวนาตามอายุของใบประทวน ซึ่งมีใบประทวนที่ใกล้จะหมดอายุในกลางเดือน ก.พ.นี้ด้วย

ทั้งนี้ ดูจากสีหน้าของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินมาจากไหนมาจ่าย ถือเป็นการพูดตามบทที่เขาบอกให้พูดเท่านั้น ส่วนที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าจะระบายข้าวให้ได้เดือนละ 1 ล้านตัน หรือได้เงิน 2 พันล้านบาทนั้น เทียบได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงิน 1.3 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลค้างจ่ายชาวนา ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง บอกมาตลอดว่าจะระบายข้าวให้เดือนละ 1 ล้านตัน แต่ก็ทำไม่ได้ จึงจะกลายเป็นการโกหกชาวนาซ้ำซากอีกหรือไม่

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังจะใช้วิธีกู้แบบอินเตอร์แบงก์ โดยให้ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยต้องจ่ายคืนภายใน 30 วันนั้น จะเกิดปัญหาสำคัญตามมาคือ รัฐบาลจะระบายข้าวได้ทันใน 30 วัน เพื่อเอาเงินให้ ธ.ก.ส.มาจ่ายให้ธนาคารออมสินได้หรือไม่ ถ้าไม่ทัน แล้วจะเอาเงินมาจากไหน เพราะถ้าหาเงินไม่ได้ ก็จะกระทบกับสถานะการเงินของ ธ.ก.ส.ซึ่งเงินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของชาวนา จะกลายเป็นว่าจะควักกระเป๋าซ้ายของชาวนามาจ่ายให้ชาวนาเองหรือไม่ และที่สุดจะกลายเป็นภาระภาษีของประชาชน

ทางที่ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรหาเงินมาจ่ายชาวนาให้ได้ทันที 1.3 แสนล้านบาท โดยต้องไม่ให้กระทบกับสถานะการเงินของรัฐ ซึ่งมีทางเดียวคือ การหาแหล่งเงินกู้ โดยที่รัฐบาลต้องอนุมัติงบกลางในการจ่ายดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหา ปล่อยให้คนใกล้ชิดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง จึงต้องมารับผิดชอบกันเอง ทั้งนี้แนวคิดที่จะให้กระทรวงการคลังขายพันธบัตรให้กับรัฐวิสาหกิจ เกรงว่า กกต.จะไม่อนุมัติ เพราะเป็นการผูกพันงบประมาณในรัฐบาลชุดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น