xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แนะ กกต.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยจัดเลือกตั้ง 28เขต จวกตร.เลือกปฏิบัติคดีแดงสุดคืบแต่ยิง "สุทิน" เงียบฉี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ แนะ กกต.หรือรัฐบาลยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตาม ม.241 หลังขัดแย้งความเห็นจัดเลือกตั้ง 28เขต พร้อมจี้ยอมรับคำวินิจฉัยด้วย ด้าน "ชวนนท์" ชี้ฝ่ายความมั่นคงเลือกปฏิบัติชัด คดี "ขวัญชัย" คืบหน้าแต่ยิง "สุทิน" กลับเงียบ แถม "ตั้ง อาชีวะ" ปราศรัยหมิ่นสถาบัน กลับลอยนวลหน้าตาเฉย ระบุยิ่งกดดันให้ประชาชนปฏิเสธอำนาจรัฐ



วันนี้ (9 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง( ก.ก.ต.)จะทำหนังสือเสนอให้รัฐบาลออก พระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ใน 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัคร แต่รัฐบาลอ้างว่าไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นหน้าที่ของ ก.ก.ต.ในการจัดการเลือกตั้งว่า กรณีนี้เป็นข้อขัดแย้งระหว่าง ก.ก.ต.กับรัฐบาลที่ไม่สามารถหาข้อยุติในเรื่องเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นจึงเสนอให้ ก.ก.ต.หรือรัฐบาลยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 241 กรณีมีความขัดแย้งอำนาจหน้าที่องค์กรตามรัฐธรรมนูญให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วต้องถือเป็นข้อยุติ ไม่ใช่ไม่ยอมรับอำนาจศาลเพราะจะทำให้หาข้อยุติไม่ได้ทั้งนี้ตนเชื่อว่า หากรัฐบาลไม่ออกพระราชกฤษฎีกา ก.ก.ต.ก็จะไม่จัดการเลือกตั้งใหม่ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับแก้ไขจึงควรคลี่คลายปัญหาในทางกฎหมายตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

" ประเทศถึงทางตันแต่ไม่จำเป็นต้องอยู่นานขอให้ ก.ก.ต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อหาทางออกโดยเร็ว เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของเล่น ต้องให้คำตอบประชาชนว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่จะมีการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัครได้หรือไม่ " นายองอาจ กล่าว

ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ทวงถามถึงฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวกับคดีความที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกรณียิงนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรธานี ว่า เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติเพราะหลายกรณีไม่มีความคืบหน้า แต่ในกรณีของนายขวัญชัยกลับได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ในขณะที่กรณีที่นายสุทิน ธราทิน ถูกสังหาร มีหลักฐานชัดเจนกลับไม่มีความคืบหน้า เช่นเดียวกับกรณีนายตั้ง อาชีวะ ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างรุนแรงบนเวทีเสื้อแดง แต่กลับลอยนวลโดยไม่มีตำรวจตามตัวมาลงโทษได้ อีกทั้งยังมีการลอบทำร้ายผู้ชุมนุม กปปส.ด้วยอาวุธสงครามหลายชนิด กลับไม่มีความคืบหน้าในการนำคนผิดมาลงโทษ และมีความพยายามที่จะเปิดเผยตัวตนกลุ่มป๊อปคอร์นที่รัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ชุมนุม เป็นการสะท้อนว่าตำรวจเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจนทำให้สังคมไทยยังขัดแย้งต่อเนื่อง เป็นการกดดันประชาชนให้ปฏิเสธอำนาจรัฐ และความชอบธรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงขอให้นายกสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติกับประชาชนอย่างเท่าเทียมในทุกกรณี
กำลังโหลดความคิดเห็น