รองเลขาฯ กกต.แถลงความคืบหน้าเลือกตั้ง เหนือ-อีสานไร้ปัญหา ส่วนภาคกลาง-ตะวันออกมีปัญหารวมกว่า 26 จังหวัด ขณะที่ กทม.51 หน่วยเลือกตั้งไม่ได้ รวม 8 เขตถูกปิดล้อม ยุติลงคะแนน 488 หน่วย 13 เขต ใต้งดลงคะแนน 9 จว. ที่เหลือปิดเกือบหมด เผยผลเลือกตั้งนอกไทยใช้สิทธิร้อยละ 27 เยอรมนีแยะสุด
วันนี้ (2 ก.พ.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงความคืบหน้าการลงคะแนนเลือกตั้งเพิ่มเติมว่า ใน 16 จังหวัด ภาคเหนือและ 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การลงคะแนนเป็นไปโดยปกติ ที่มีปัญหาคือในภาคกลาง ตะวันออกและกรุงเทพมหานคร 26 จังหวัดที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ โดยมีรายงานว่าขณะนี้กรุงเทพมหานครนอกเหนือจาก 5 เขตเลือกตั้งรวม 437 หน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดการลงคะแนนได้แล้ว มีเพิ่มอีก 51 หน่วยเลือกตั้งใน 8 เขตเลือกตั้งที่ถูกปิดล้อมและไม่สามารถลงคะแนนได้ ประกอบด้วย เขตบางขุนเทียน บางเขน ปทุมวัน ป้อมปราบศัตรูพ่าย พญาไท สวนหลวง ห้วยขวาง และบางรัก รวมขณะนี้ กทม.ยุติการลงคะแนนแล้วให้ 488 หน่วยใน 13 เขตเลือกตั้ง
ขณะที่ จ.เพชรบุรี มีการปิดหน่วยเพิ่มเติมในเขตเลือกตั้งที่ 3 อีก 1 หน่วยจากเดิมที่ปิดไปแล้ว 73 หน่วยเลือกตั้ง ส่วน จ.ระยอง ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้งได้ติดประกาศงดการลงคะแนนแล้วใน 27 หน่วยเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 1 ถึง 4 สำหรับภาคใต้นอกจาก 9 จังหวัดที่มีการงดการลงคะแนนทั้งจังหวัดแล้ว มีการงดการลงคะแนนเพิ่มเติมในหน่วยเลือกตั้งของจ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งรวม 185 หน่วยเลือกตั้ง จ.สตูล มีการติดประกาศงดการลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งทั้ง 2 เขตเลือกตั้งรวม 65 หน่วยเลือกตั้ง จ.ยะลา มีการงดการลงคะแนนใน 3 เขตเลือกตั้งรวม 5 หน่วยเลือกตั้ง จ.ปัตตานี มีการงดการลงคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 2 และ 3 อย่างละ 1 หน่วยเลือกตั้ง
ทั้งนี้ นายธนิศร์ยังกล่าวถึงการผลการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนดให้มีการใช้สิทธิเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 13-26 มกราคม จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ 143,807 คน ใน 67 ประเทศ มาใช้สิทธิ 38,350 คน คิดเป็นร้อยละ 27 โดยณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มีผู้มาใช้สิทธิสูงสุด 2,892 คนจากที่ขอลงทะเบียนไว้ 5,555 คน
