xs
xsm
sm
md
lg

ดุสิตโพลชี้ส่วนใหญ่มองหลังเลือกตั้งส่อรุนแรง จี้เจรจา ขอนักการเมืองหยุดทะเลาะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สวนดุสิตโพลจัดทำโพลเรื่องการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ส่วนมากคิดว่ามีแนวโน้มรุนแรง รองมาชี้ว่าความเห็นยังต่างกันคนละขั้วอยู่ ส่วนใหญ่เชื่อเจรจาถึงหยุดวุ่นวาย รองแนะให้ปฏิรูป ฝากนักการเมืองหยุดทะเลาะ ช่วยกันพัฒนาชาติ

วันนี้ (2 ก.พ.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จัดทำผลสำรวจเรื่อง “การเมืองไทย” หลังเลือกตั้ง 2 ก.พ. โดยระบุว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นเรื่องที่ประชาชนหวังว่าการเลือกตั้งจะเป็นทางออกอีกทางหนึ่งที่อาจทำให้สถานการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองคลี่คลายลง แต่ก็ยังมีความกังวลถึงปัญหาที่จะตามมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการเลือกตั้งและมีความห่วงใยต่อบ้านเมือง จึงได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,316 คน ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2557 สรุปผลดังนี้

ต่อคำถามว่าประชาชนคิดว่า การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง 2 ก.พ.จะเป็นอย่างไร อันดับ 1 คิดว่าวุ่นวายเหมือนเดิมและมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น 28.74% อันดับ 2 คิดว่าทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันคนละขั้ว 24.94% อันดับ 3 คิดว่ายังมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวต่อไป 22.09% อันดับ 4 คิดว่าปัญหาจากการเลือกตั้ง การคัดค้าน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับกับผลที่ออกมา 17.10% และอันดับ 5 คิดว่าหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคนเคารพในประชาธิปไตย 7.13%

เมื่อถามว่าทำอย่างไร การเมืองไทยจึงจะหยุดวุ่นวาย อันดับ 1 มองว่าทั้งองฝ่ายจะต้องเจรจาพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ 47.46% อันดับ 2 มองว่าควรปฏิรูปการเมืองไทยและนักการเมืองให้ดีก่อน 20.34% อันดับ 3 มองว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์จะต้องรับฟังเสียงของประชาชนและลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง 13.90% อันดับ 4 มองว่าเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง 10.16% และอันดับ 5 ปลูกฝังเรื่องจิตสำนึก ความซื่อสัตย์ คุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง 8.14%

ขณะที่คำถามว่าสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกนักการเมือง อันดับ 1 ระบุว่าหยุดทะเลาะกัน อยากให้ร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อประเทศชาติจะได้เดินหน้าต่อไป 34.73% อันดับ 2 ระบุว่าเป็นคนดี ซื่อสัตย์ เลิกพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน 32.34% ระบุว่าอันดับ 3 ระบุว่าอยากให้เป็นแบบอย่างที่ดี นำความรู้ความสามารถที่มีมาใช้ในการทำงานอย่างเต็มที่ 17.96% อันดับ 4 ระบุว่าเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแบบเดิมๆ 8.08% และอันดับ 5 ระบุว่าควรหันมาสนใจและให้ความสำคัญเรื่องปากท้องของประชาชน ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 6.89%


กำลังโหลดความคิดเห็น